ig story techniques

ในยุคดิจิทัลที่การขายของออนไลน์เป็นการทำการตลาดที่ขาดไม่ได้ การทำ Marketing บน Instagram กลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์สำคัญที่ร้านค้าออนไลน์ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง IG Story ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ร้านค้าสามารถนำเสนอสินค้าและดึงดูดความสนใจของผู้ติดตามและกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วันนี้ Carry Fulfillment จะพาคุณไปรู้จักกับ IG Story และแนะนำเทคนิคการใช้งานเพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย และสร้างความน่าสนใจให้กับร้านค้าของคุณ ไปดูกันเลย!


IG Story คืออะไร?

IG Story เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ของแอปชื่อดังอย่าง Instagram ที่ช่วยให้คุณแชร์เนื้อหา เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความ ได้ชั่วคราว โดยเนื้อหาที่คุณลงจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ฟีเจอร์นี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และไม่ต้องคิดมากเรื่องความเป็นทางการหรือความสมบูรณ์แบบของเนื้อหา ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งสำหรับร้านค้าออนไลน์ในการนำเสนอสินค้า โปรโมชั่น หรือกิจกรรมพิเศษที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ๆ

ข้อที่ควรรู้เกี่ยวกับ IG Story [อัปเดทล่าสุด]

เนื้อหาของ IG Story จะหายไปหลังครบ 24 ชั่วโมง

สิ่งสำคัญที่ควรรู้เกี่ยวกับ Story IG คือการที่เนื้อหาจะหายไปภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งสร้างความเร่งด่วนให้ผู้ติดตามรีบเข้ามาดู แต่ถ้าร้านค้าหรือแบรนด์ไหนอยากเก็บสตอรี่ไว้ให้ลูกค้าชมย้อนหลัง ก็สามารถสร้างเป็นไฮไลท์ไว้ที่หน้าโปรไฟล์ หรือเข้าไปใน “คลัง” หรือ Archive เพื่อรีโพสต์สตอรี่ได้อีกครั้ง

ข้อจำกัดด้านเวลาของ IG Story

ในปัจจุบัน Meta ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน Instagram ได้เพิ่มความยาวสูงสุดของการลงสตอรี่ไอจีจาก 60 วินาที เป็น 90 วินาที เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนมากขึ้น ซึ่งถือเป็นข้อดีอย่างมากสำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการใช้คอนเทนต์วิดีโอสั้นเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า

เพิ่ม Hashtag ลงในสตอรี่ได้แล้ว!

นอกจากฟีเจอร์อื่น ๆ ที่ Meta พัฒนาขึ้นแล้ว ยังเพิ่มความสะดวกด้วยการใส่ Hashtag (#) ลงในสตอรี่ไอจี ทำให้เนื้อหาของคุณมีโอกาสถูกค้นพบมากขึ้น หากใส่แฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์นั้น ๆ เมื่อมีคนค้นหา Hashtag นั้น สตอรี่ของคุณก็จะปรากฏให้เห็นในฟีดรวมของ Hashtag ทำให้มีโอกาสเข้าถึงผู้ชมกลุ่มใหม่ ๆ ได้มากขึ้น

ตั้งเวลาลงสตอรี่ล่วงหน้าผ่าน Meta Business Suite ได้แล้ว!

สำหรับร้านค้าออนไลน์หรือแบรนด์ที่ต้องการจัดการเนื้อหาให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น Instagram มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถตั้งเวลาโพสต์ IG Story ล่วงหน้าได้ผ่าน Meta Business Suite ทำให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถวางแผนคอนเทนต์ล่วงหน้าและกำหนดเวลาให้สตอรี่เผยแพร่ในช่วงที่เหมาะสม โดยไม่ต้องกังวลว่าจะลืมหรือไม่มีเวลาโพสต์บ


7 เทคนิคลง IG Story ให้โดนใจ เพิ่มยอดเอนเกจ ดันยอดขายให้ร้านค้าออนไลน์

1. ลงสตอรี่ด้วย Grid โชว์ภาพสินค้าหลากหลายมุม

เทคนิคแรก เพิ่มความโดดเด่นให้ Instagram Story ของร้านค้าคุณได้ง่าย ๆ ด้วยเมนู “Layout” ที่ช่วยจัดภาพในรูปแบบ Grid ตั้งแต่ 4 ถึง 9 ช่อง ทำให้คุณสามารถจัดวางรูปภาพในสตอรี่ได้อย่างน่าสนใจ เหมาะสำหรับการพรีเซนต์สินค้าหลาย ๆ ชิ้นในสตอรี่เดียว หรือสินค้าตัวเดียวที่มีดีเทลหลาย ๆ มุม ช่วยให้ลูกค้าเห็นรายละเอียดและข้อมูลของสินค้าได้ชัดเจนและน่าดึงดูดยิ่งขึ้น!

instagram story link feature

2. เพิ่มลิงก์สำหรับกดตะกร้าสั่งซื้อ

เพื่อให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น อย่าลืมแนบลิงก์หน้าสั่งซื้อสินค้าบนเว็บไซต์ของทางร้านลงในสตอรี่ หรือถ้าร้านค้าคุณยังไม่มีเว็บไซต์ ก็ยังสามมารถใช้ลิงก์ไปยัง Inbox ของเพจ หรือลิงก์สำหรับ Add Line แทนก็ได้ ที่สำคัญ อย่าลืมจัดวางตำแหน่งลิงก์บนสตอรี่ให้เตะตา น่าคลิก แต่ไม่บดบังสินค้า เท่านี้ลูกค้าก็สามารถกดสั่งซื้อได้อย่างสะดวก เพิ่มโอกาสปิดยอดขายได้แบบปังๆ! 

3. Repost สตอรี่ลูกค้า

สร้างกลยุทธ์ User-generated Content (UGC) ง่าย ๆ ด้วยการจัดแคมเปญเชิญชวนลูกค้ารีวิวสินค้าผ่านรูปภาพหรือวิดีโอสั้นๆ ใน IG Story แล้วแท็กร้านมา จากนั้นพ่อค้าแม่ค้าก็นำมา Repost ลงในบัญชีร้าน นอกจากจะเป็นการเพิ่มการมีส่วนร่วมแบบออร์แกนิกแล้ว ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าและเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ของคุณได้อีกด้วย!

instagram story quiz และ poll

4. ใช้ Quiz เพิ่มความสนุก แถมเก็บ Data ได้อีกด้วย

ลองใช้ “Quiz” ใน IG Story เพื่อตั้งคำถามให้ลูกค้าเข้ามาเลือกคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นการขอ feedback สอบถามความสนใจ เช็คแนวโน้ม ไอเดียสำหรับสินค้าใหม่ วิธีนี้ช่วยให้คุณเก็บข้อมูลจากลูกค้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ แถมยังนำ Data เหล่านี้ไปต่อยอดในการพัฒนาสินค้าหรือกลยุทธ์การตลาดในอนาคตได้อย่างแนบเนียน

5. ใช้ Poll สร้างเอนเกจ 

การใช้ฟีเจอร์ Poll เป็นวิธีที่ง่ายและสนุกในการกระตุ้นการโต้ตอบกับลูกค้า แถมเป็นอีกหนึ่งวิธีที่เก็บ Data ได้ดีด้วยเช่นกัน ลองตั้งคำถามง่าย ๆ เช่น “ชอบสินค้าสีไหนมากกว่ากัน?” หรือ “คอลเลคชันต่อไปควรเป็นแบบไหนดี?” นอกจากจะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณได้ Feedback จากลูกค้าแล้ว ยังทำให้สตอรี่ไอจีมีความน่าสนใจและสร้างการมีส่วนร่วมได้มากขึ้นอีกด้วย 

6. สร้างความสนุกด้วย Add Yours

ฟีเจอร์ Add Yours เป็นอีกหนึ่งทางที่ทำให้ร้านค้าของคุณร่วมสนุกกับลูกค้าได้อย่าสร้างสรรค์ คุณสามารถโพสต์หัวข้อสนุก ๆ ให้พวกเขาอื่นแชร์ เช่น “โชว์สินค้าที่คุณซื้อจากร้านเรา!” หรือ “แชร์โมเมนต์ที่ใช้สินค้าชิ้นโปรด” ฟีเจอร์นี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ลูกค้าเข้ามามีส่วนร่วม แต่ยังสร้างความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์ด้วย

7. ใช้ Countdown สร้างความตื่นเต้น

ถ้ามีโปรโมชั่นหรือกิจกรรมพิเศษ อย่าลืมใช้ฟีเจอร์ Countdown เพื่อสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น “เหลือเวลาอีก 2 วันก่อนโปรหมด” หรือ “สินค้าวางจำหน่ายในอีก 3 ชั่วโมง” ฟีเจอร์นี้จะกระตุ้นให้ลูกค้ารีบตัดสินใจและเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้อย่างดี


สำหรับร้านค้าออนไลน์ร้านไหน ที่มีออเดอร์เข้ามามากมายจากการใช้เทคนิคการลงสตอรี่ไอจีที่เราแนะนไป จนจัดการออรเดอร์ไม่ทัน ก็อย่าลืมนึกถึง Carry Fulfillment กันนะครับ เราช่วยร้านคุณจัดการได้ทุกขั้นตอน ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการครบวงจรที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!