จันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 17.00 น.
@Carry.th 
ในโลกที่ช่องทางดิจิทัลมีความสำคัญไม่แพ้โลกความจริง คำว่า “KOL” ได้กลายเป็นคำที่โลดแล่นอยู่ในวงการการตลาดออนไลน์อยู่บ่อยครั้ง หลายคนอาจจะสงสัยว่า KOL มีความหมายและบทบาทยังไงต่อการเพิ่มการรับรู้ (Awareness) ของแบรนด์
บทความนี้จะช่วยคุณคลี่คลายทุกข้อสงสัย ไปทำความเข้าใจในบทบาทของ KOL ความต่างระหว่าง KOL กับ Influencer และวิธีการเลือกใช้พวกเขาเพื่อยกระดับแบรนด์และผลักดันยอดขายของธุรกิจคุณกันได้เลย
KOL คืออะไร
KOL หรือ Key Opinion Leader หากแปลอย่างตรงไปตรงมาก็หมายถึงผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิด ซึ่งก็ถูกนำมาจำกัดความผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สามารถสร้างความน่าเชื่อถือและอิทธิพลต่อสังคมออนไลน์หรือผู้ติดตาม (Follower) ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี
KOL ที่เราพบเห็นกันได้บ่อย ๆ บนโลกออนไลน์นั้นมีอยู่หลายแขนงมาก ไม่ว่าจะเป็นในด้านความงาม อาหาร ฟิตเนส ท่องเที่ยว ทางการแพทย์ เทคโนโลยี สิ่งแวดล้อม และวิทยาศาสตร์เป็นต้น
KOL และ Influencer แตกต่างกันอย่างไร
อย่างที่กล่าวไปว่า KOL หรือ Key Opinion Leader เป็นบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีอิทธิพลในการสื่อสารต่อผู้ติดตามที่เชื่อถือ ชื่นชม ยกย่องในความรู้และประสบการณ์ของพวกเขา
สำหรับ Influencer นั้นก็เป็นถือผู้ที่มีอิทธิพลต่อความคิดแของผู้ติดตามด้วยเช่นกัน ทั้ง KOL และ Influencer นั้นมีความคล้ายกันในทางที่เป็นแบบอย่างหรือผู้นำทางความคิด แต่ Influencer นั้นมีหลายประเภทไม่จำเป็นต้องมีความรู้เฉพาะด้าน อาจเป็นได้ทั้งดารา นักร้อง นักแสดงที่มีชื่อเสียง หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงจากโลกออนไลน์ เช่น Youtuber หรือ Blogger ซึ่งเน้นนำเสนอไลฟสไตล์และความบันเทิงในหลากหลายด้านนั่นเอง
การใช้ KOL Marketing มีประโยชน์อย่างไรต่อแบรนด์
KOL Marketing คือการใช้ KOL ในการสื่อสารการตลาดของแบรนด์ ผ่านการทำคอนเทนต์ต่าง ๆ ด้วยการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการนั้น ๆ เพื่อเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์และสร้างแรงจูงใจให้เกิดการซื้อสินค้าและบริการในกลุ่มเป้าหมายได้ในท้ายที่สุด
การใช้ KOL ในการทำการตลาดนับเป็นเทคนิคที่มีประโยชนืต่อแบรนด์ในหลายด้าน ดังนี้:
เพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
เนื่องจาก KOL คนที่มีความรู้เฉพาะด้าน มีความรู้ลึก รู้จริง การใช้ KOL ในการสื่อสารการตลาดของแบรนด์จึงทำให้ข้อมูลนั้น ๆ มีน้ำหนักและน่าเชื่อถือ ในสายตาและมุมมองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างดี
เพิ่มการรับรู้ (Awareness)
อย่างที่เรารู้ดีกันว่า KOL นั้นเป็นผู้มีอิทธิพลในโลกออนไลน์ที่มีฐานผู้ติดตามอยู่จำนวนมาก ดังนั้นการเลือกใช้ KOL ในการโปรโมตสินค้าและบริการนั้น จะทำให้ชื่อแบรนด์หรือสินค้าของคุณเป็นที่จดจำได้ง่ายขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มการรับรู้ เพราะสินค้าของแบรนด์นั้นได้รับการรับประกันจากบุคคลที่น่าเชื่อถือ
เพิ่มโอกาสในการขาย
โดยปกติแล้ว 90% ของผู้บริโภคมีความไว้วางใจในสินค้าหรือบริการที่ได้รับการบอกต่อจากคนอื่น ซึ่งหากเราลองมองในมุมที่ สินค้าหรือบริการนั้น ๆ ถูกแนะนำมาจากบุคคลที่พวกเขาเชื่อถืออย่าง KOL ด้วยแล้วนั้น ก็ยิ่งชี้ให้เห็นโอกาสในการขายสินค้าของแบรนด์นั้น ๆ ที่เพิ่มยิ่งขึ้น หรือกล่าวง่าย ๆ คือ KOL สามารถโน้มน้าวผู้ติดตามของพวกเขาให้หันมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการของแบรนด์นั้น ๆตามได้อย่างง่ายดาย
เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
เพราะ KOL นั้นเป็นบุคคลที่มีความรู้เฉพาะทาง นั่นก็หมายความว่ากลุ่มผู้ผู้ติดตามของ KOL ล้วนแต่สนใจในหัวข้อเดียวกัน หากแบรนด์ใช้ KOL ที่มีความรู้เฉพาะด้านที่เกี่ยวข้องกับตัวสินค้าหรือบริการของแบรนด์โดยตรงแล้วนั้น ก็เป็นการทำการตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุด ถือเป็นกลยุทธ์ที่เสริมสร้างจุดแข็งให้กับแบรนด์และเป็นตัวช่วยในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริโภคกับแบรนด์อย่างยั่งยืนไปในตัว
ประเภทของ KOL
ในการจะแบ่ง KOL ว่ามีกี่ประเภทนั้นสามารถดูได้จากจำนวนผู้ติดตามหรือ Follower ซึ่งก็มีหลักการการแบ่งที่คล้ายคลึงกับ Influencer ที่มี 5 ประเภท ดังนี้:
- Nano KOL คือ กลุ่มที่มียอด Follower จำนวน 1,000-10,000 คน
- Micro KOL คือ กลุ่มที่มียอด Follower จำนวน 10,000-50,000 คน
- Mid-Tier KOL คือ กลุ่มที่มียอด Follower จำนวน 50,000-100,000 คน
- Macro KOLคือ กลุ่มที่มียอด Follower จำนวน 100,000-1,000,000 คน
- Mega KOL คือ กลุ่มที่มียอด Follower จำนวน 1,000,000 คนขึ้นไป
เลือกใช้ KOL อย่างไร ให้เหมาะกับแบรนด์ของคุณ?
การเลือกใช้ KOL ที่เหมาะสมกับแบรนด์นั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ธุรกิจให้ความสำคัญในหลาย ๆ ประเด็น ทั้งนี้ก็เพื่อให้การโฆษณาและการตลาดผ่านผู้มีอิทธิพลเหล่านี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
1. ทำความเข้าใจตลาด
ก่อนที่ธุรกิจจะตัดสินใจว่าควรเลือกว่าจะใช้ KOL คนไหนดี ควรทำความเข้าใจตลาดให้ดีก่อน ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาคู่แข่ง การสำรวจว่าผู้บริโภคพูดถึงแบรนด์ว่าอย่างไร ผู้บริโภคมีมุมมองอย่างไรเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการในหมวดหมู่เดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
2. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย
หลังจากที่ทำความเข้าใจตลาดไปแล้ว อีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ยิ่งละเอียดได้มากแค่ไหน ก็ยิ่งส่งผลดีในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดมากขึ้น เช่นการศึกษาว่า กลุ่มเป้าหมายมีชอบในคอนเทนต์แบบไหน หัวข้ออะไรที่เป็นที่นิยมในกลุ่มเป้าหมายเป็นต้น
3. ค้นหา KOL ที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์
ธุรกิจควรเลือกใช้ KOL ที่มีความเกี่ยวข้องกับแบรนด์มากที่สุด เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือในการให้ข้อมูลและช่วยให้โน้มน้าวใจกลุ่มเป้าหมายได้ดีและตรงกลุ่มยิ่งขึ้น เช่น หากแบรนด์ของคุณต้องการโปรโมตสินค้าประเภทไอทีและเทคโนโลยี ก็ควรเลือก KOL ที่มีความรู้ทางด้านนี้
แนวทางใช้ KOL ในการทำการตลาดสำหรับยุคนี้
การเลือกใช้ KOL ในการตลาดไม่เพียงแต่เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายผ่านการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพทั้งในแง่ของทักษะและความน่าเชื่อถือของ KOL แบรนด์สามารถให้ KOL ช่วยทำการตลาดได้ดังนี้
รีวิวสินค้าและบริการ
ให้ KOL มาร่วมกิจกรรมของแบรนด์
ใช้ KOL ในการทำโฆษณา
ตัวอย่าง KOL ในไทย
KOL สายความงาม (Beauty)
1. โมเม Daily Cherie
2. อิ๊ง พลิกหลังกล่อง
3. ตู่ Soundtiss
KOL สายไอทีและเทคโนโลยี (Technology)
1. เฟื่อง LDA
2. ซี Ceemeagain
3. หนุ่ย Beartai
KOL สายท่องเที่ยว (Travel)
1. ว่านไฉ อาสา พาไปหลง
2. บาส Go Went Go
3. พลอย Pigkaploy
KOL อาหารและเครื่องดื่ม (Education)
1. Starvingtime เรื่องกินเรื่องใหญ่
2. Wongnai
3. หมีมีหม้อ
ใช้ KOL เพื่อเพิ่มยอดขาย
การทำการตลาดด้วย KOL นั้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ เพราะพวกเขาถือเป็นคนที่มีอิทธิพลและมีฐานผู้ติดตามอยู่แล้ว จึงทำให้แบรนด์สามารถโปรโมตสินค้าได้อย่างตรงกลุ่ม สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์ อีกทั้งยังเป็นการะตุ้นยอดขายได้อย่างดี ทั้งนี้แบรนด์ก็ควรเลือกใช้ KOL ให้สอดคล้องกับแบรนด์และสินค้าหรือบริการของแบรนด์ เพื่อให้การสื่อสารการตลาดเป็นไปอย่างราบรื่นและตรงจุด
และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับยอดขายที่เพิ่มขึ้น ธุรกิจก็สามารถให้ Carry Fulfillment ช่วยคุณจัดการ จัดเก็บ และส่งสินค้าให้แบรนด์ของคุณได้ เพราะเรามีบริการครบวงจร ที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำและราบรื่น แถมยังช่วยประหยัดทั้งแรงและเวลาให้คุณได้อีกด้วย