จันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 17.00 น.
@Carry.th 
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจก็ดุดันขึ้นทุกวัน การรักษาลูกค้าเก่าให้กลับมาซื้อซ้ำนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไปถ้าร้านค้าออนไลน์ของคุณมีเครื่องมือที่ดี ๆ อย่าง Loyalty Program หรือโปรแกรมความภักดี ที่สามารถทำให้ลูกค้ารู้สึกผูกพันกับแบรนด์มากขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่มยอดขายแล้ว ยังช่วยให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ของคุณคุ้มค่าต่อการใช้จ่ายและน่ากลับมาอีกครั้ง !
วันนี้ Carry Fulfillment จะพาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาดูกันว่า 12 ไอเดีย Loyalty Program ที่จะทำให้ลูกค้าของคุณกลับมาซื้อซ้ำมีอะไรบ้าง
Loyalty Program คือ?
Loyalty Program คือโปรแกรมที่ธุรกิจออกแบบมาเพื่อสร้างแรงจูงใจและความผูกพันกับลูกค้า โดยมอบรางวัลหรือสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่ซื้อสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง เป้าหมายหลักคือการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ พร้อมสร้างความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับแบรนด์
การมี Loyalty Program ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกได้รับการตอบแทนจากการสนับสนุนแบรนด์ การมอบสิทธิพิเศษทำให้ลูกค้าประทับใจ และยังเพิ่มโอกาสที่ลูกค้าจะแนะนำเพื่อนหรือคนรอบข้างมาซื้อหรือใช้สินค้าของแบรนด์ การมีโปรแกรมเช่นนี้ยังช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ พร้อมทั้งสื่อสารให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์ให้ความสำคัญกับพวกเขาจริง ๆ
12 ไอเดีย Loyalty Program
1. โปรแกรมสะสมแต้ม (Point-Based Loyalty Program)
โปรแกรมสะสมแต้มถือเป็นหัวใจสำคัญของ Loyalty Programs เลยก็ว่าได้ ทุกครั้งที่ลูกค้าซื้อสินค้ากับทางร้าน ลูกค้าจะได้รับแต้มสะสมที่สามารถนำไปแลกของรางวัลหรือส่วนลดพิเศษได้ ยิ่งซื้อบ่อยก็ยิ่งได้แต้มมากขึ้น ซึ่งใครล่ะจะไม่ชอบของฟรีหรือส่วนลดพิเศษ? โปรแกรมนี้นอกจากจะกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำแล้ว ยังสร้างความตื่นเต้นทุกครั้งที่ลูกค้าสะสมแต้มครบตามเป้าหมายอีกด้วย
ตัวอย่าง: 7-Eleven มีโปรแกรมสะสมแต้มที่ลูกค้าสามารถสะสมแต้มทุกครั้งที่ซื้อสินค้าผ่านแอปพลิเคชัน All Member ซึ่งแต้มสามารถนำไปแลกสินค้าฟรีหรือส่วนลดได้ นอกจากนี้ยังมีโปรโมชั่นสะสมแต้มพิเศษสำหรับการซื้อสินค้าในช่วงเวลาต่าง ๆ อีกด้วย
2. โปรแกรมสมาชิก (Tiered Loyalty Program)
ถ้าคุณอยากให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและอยากกลับมาซื้อซ้ำ ลองสร้างโปรแกรมสมาชิกที่มีระดับต่าง ๆ เช่น Silver, Gold, และ Platinum ให้แต่ละระดับมีสิทธิพิเศษที่แตกต่างกัน ยิ่งลูกค้าใช้จ่ายมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งได้เลื่อนระดับและรับสิทธิประโยชน์ที่มากขึ้น เป็นการสร้างความรู้สึกว่า “ฉันต้องได้รับสิ่งที่ดีที่สุด” ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อซ้ำเพื่อเลื่อนระดับให้ได้
ตัวอย่าง: The 1 Card จาก Central Group เป็นโปรแกรมที่มีระดับสมาชิกแตกต่างกันตามยอดการใช้จ่าย ลูกค้าที่ใช้จ่ายมากขึ้นจะได้เลื่อนระดับสมาชิก เช่น The 1 Exclusive ซึ่งมีสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะ ส่วนลดพิเศษ การเข้าถึงสินค้าก่อนใคร หรือบริการพิเศษต่าง ๆ
3. โปรแกรมแนะนำเพื่อน (Referral Loyalty Program)
โปรแกรมแนะนำเพื่อนเป็นโปรแกรมที่นอกจากจะช่วยให้คุณได้ลูกค้าใหม่แล้วยังช่วยรักษาลูกค้าเก่าอีกด้วย เมื่อลูกค้าปัจจุบันแนะนำเพื่อนมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการ พวกเขาจะได้รับรางวัลหรือส่วนลดพิเศษ เป็นวิธีที่สนุกและสร้างสรรค์ในการทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขามีส่วนร่วมในการเติบโตของแบรนด์
ตัวอย่าง: Grab มีโปรแกรมแนะนำเพื่อน ซึ่งลูกค้าจะได้รับเครดิตหรือส่วนลดสำหรับการใช้งานครั้งถัดไปเมื่อแนะนำเพื่อนมาสมัครใช้งานและทำการสั่งซื้อ/ใช้บริการเป็นครั้งแรก
4. โปรแกรมคืนเงิน (Cashback Loyalty Program)
โปรแกรมคืนเงินเป็นวิธีที่ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าทุกการซื้อสินค้ามีความคุ้มค่า เมื่อลูกค้าซื้อสินค้าครบตามจำนวนที่กำหนด พวกเขาจะได้รับเงินคืนในรูปแบบส่วนลดหรือเครดิตที่สามารถใช้ซื้อสินค้าในครั้งถัดไปได้ ใครจะไม่ชอบการได้รับสิ่งตอบแทนแบบทันทีบ้าง? การรู้ว่าตัวเองจะได้รับเงินคืนย่อมทำให้ลูกค้ารู้สึกดีและอยากกลับมาซื้อซ้ำอย่างแน่นอน
ตัวอย่าง: Shopee มีโปรแกรมคืนเงินในรูปแบบ Shopee Coins ที่ลูกค้าจะได้รับคืนเป็นเปอร์เซ็นต์ของยอดการสั่งซื้อ ซึ่ง Shopee Coins สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าครั้งถัดไปได้
5. โปรแกรมส่งเสริมการซื้อซ้ำ (Repeat Purchase Incentives)
ถ้าคุณอยากให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ลองใช้โปรแกรมส่งเสริมการซื้อซ้ำดู เช่น การมอบส่วนลดหรือของแถมพิเศษสำหรับการซื้อครั้งถัดไป วิธีนี้ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้อซ้ำมีความคุ้มค่าและมีสิ่งที่น่ารอคอย เป็นการสร้างแรงจูงใจที่ดีในการกลับมาซื้อสินค้าอีกครั้ง
ตัวอย่าง: Starbucks Rewards มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าที่ซื้อเครื่องดื่มอย่างต่อเนื่อง เช่น เมื่อสะสมดาวครบตามจำนวนที่กำหนด ลูกค้าจะได้รับเครื่องดื่มฟรีหรือลดราคาในครั้งถัดไป
6. โปรแกรมการสมัครสมาชิกรายเดือน (Subscription-Based Loyalty Program)
โปรแกรมสมัครสมาชิกรายเดือนเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ลูกค้าจะได้รับสินค้าและสิทธิพิเศษประจำเดือน ทำให้พวกเขารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวแบรนด์และได้รับการดูแลเป็นพิเศษตลอดเวลา โปรแกรมนี้ยังช่วยให้ธุรกิจมีรายได้ที่มั่นคงจากการสมัครสมาชิกด้วย
ตัวอย่าง: LINE Melody VIP Subscription มีบริการสมัครสมาชิกรายเดือนเพื่อเข้าถึงเพลงพิเศษและบริการเสริมต่าง ๆ ที่เป็นของสมาชิก VIP เท่านั้น
7. โปรแกรมการให้ของขวัญวันเกิด (Birthday Loyalty Program)
ใครบ้างจะไม่ชอบการได้รับของขวัญในวันพิเศษ? โปรแกรมการให้ของขวัญวันเกิดเป็นวิธีที่ดีในการแสดงความใส่ใจต่อลูกค้า เมื่อลูกค้าถึงวันเกิด แบรนด์สามารถมอบของขวัญหรือส่วนลดพิเศษ ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับการดูแลเป็นพิเศษ และสร้างความประทับใจที่น่าจดจำในสายตาพวกเขา
ตัวอย่าง: Swensen’s มอบของขวัญวันเกิดให้กับสมาชิก Swensen’s Card โดยลูกค้าจะได้รับไอศกรีมฟรีหรือส่วนลดพิเศษในวันเกิด ทำให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษและอยากฉลองวันเกิดที่ร้านอีกครั้ง
8. โปรแกรมสะสมคะแนนจากการรีวิวสินค้า (Review-Based Loyalty Program)
นอกจากการซื้อสินค้าแล้ว การให้ลูกค้าช่วยรีวิวสินค้าหรือบริการก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความเชื่อถือและส่งเสริมการตลาดแบบปากต่อปาก (Word-of-Mouth) ได้ โปรแกรมสะสมคะแนนจากการรีวิวสินค้าเป็นอีกหนึ่งโปรแกรมที่สร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ โดยการให้คะแนนพิเศษหรือลดราคาเมื่อพวกเขาเขียนรีวิว
ตัวอย่าง: มีโปรแกรมที่ให้ลูกค้าสามารถสะสม Shopee Coins จากการรีวิวสินค้าที่ซื้อไป โดยลูกค้าจะได้รับ Coins เพิ่มขึ้นหากมีการเขียนรีวิวพร้อมใส่รูปภาพหรือวิดีโอ ทำให้ลูกค้าได้รับสิทธิพิเศษจากการรีวิวอย่างสม่ำเสมอ
9. โปรแกรมการให้รางวัลเมื่อบรรลุเป้าหมาย (Goal-Oriented Loyalty Program)
โปรแกรมนี้ช่วยสร้างความตื่นเต้นและความรู้สึกท้าทายให้กับลูกค้า โดยตั้งเป้าหมายให้พวกเขาสามารถบรรลุได้ เช่น ซื้อสินค้าครบ 5 ครั้งภายใน 2 เดือน แล้วจะได้รับรางวัลพิเศษหรือส่วนลด เป็นการกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อบ่อยขึ้นและสร้างความตื่นเต้นในการทำตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
ตัวอย่าง: Fitness First มีโปรแกรมที่มอบรางวัลพิเศษให้ลูกค้าที่ออกกำลังกายครบตามจำนวนครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด เช่น เมื่อออกกำลังกายครบ 30 ครั้งใน 3 เดือน ลูกค้าจะได้รับเสื้อออกกำลังกายหรือส่วนลดคลาสเสริม
10. โปรแกรมแลกแต้มกับสินค้าใหม่ก่อนใคร (Early Access Loyalty Program)
การมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ ก่อนใคร ทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองเป็น “คนพิเศษ” ของแบรนด์ วิธีนี้ไม่เพียงแต่ทำให้ลูกค้าอยากกลับมาซื้อสินค้าใหม่ซ้ำแล้วซ้ำอีก แต่ยังทำให้พวกเขารู้สึกถึงความเป็นเอกลักษณ์และความพิเศษในฐานะสมาชิกโปรแกรมความภักดี
ตัวอย่าง: Sephora มีโปรแกรมสมาชิก Beauty Pass ที่สมาชิกระดับ Gold สามารถเข้าถึงสินค้าใหม่และโปรโมชั่นพิเศษได้ก่อนสมาชิกทั่วไปหรือก่อนที่สินค้าจะเปิดขาย
11. โปรแกรมเกมลุ้นรางวัล (Gamified Loyalty Program)
การเปลี่ยนการสะสมแต้มให้เป็นเกมสนุก ๆ เป็นวิธีที่น่าสนใจในการเพิ่มความตื่นเต้นและกระตุ้นให้ลูกค้าอยากซื้อซ้ำ โปรแกรมนี้จะทำให้ลูกค้าสามารถเล่นเกมเพื่อสะสมคะแนนหรือรางวัลพิเศษได้ตามการซื้อสินค้า สร้างความสนุกสนานและกระตุ้นให้ลูกค้าเข้าร่วมโปรแกรมมากขึ้น
ตัวอย่าง: Lazada ได้สร้างเกมในแอป เช่น “Fish Catch” และ “Coin Catcher” ที่ให้ผู้ใช้เล่นเพื่อสะสมเหรียญ (Coins) นำไปแลกบัตรกำนัลหรือส่วนลดต่าง ๆ
12. โปรแกรมการบริจาคแต้มเพื่อการกุศล (Charity-Based Loyalty Program)
สำหรับลูกค้าที่ต้องการมีส่วนร่วมในการทำความดี สามารถสร้างโปรแกรมที่ให้ลูกค้าสามารถบริจาคแต้มสะสมไปยังองค์กรการกุศลหรือกิจกรรมสาธารณประโยชน์ได้ การทำโปรแกีมแบบนี้ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความรู้สึกพึงพอใจให้กับลูกค้า แต่ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์
ตัวอย่าง: Tops Market มีโปรแกรมที่ให้ลูกค้าสามารถบริจาคแต้ม The 1 Card ไปยังองค์กรการกุศลต่าง ๆ ได้ โดยแต้มสะสมของลูกค้าจะถูกเปลี่ยนเป็นมูลค่าเงินบริจาค เพื่อช่วยเหลือโครงการสาธารณกุศลต่าง ๆ
ไม่ว่าร้านของคุณจะใช้โปรแกรม Loyalty แบบไหน สิ่งสำคัญคือการเข้าใจและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า การสร้างความผูกพันและความพึงพอใจในระยะยาวคือกุญแจที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่อง ลองนำไอเดียที่เราแนะนำวันนี้ไปปรับใช้เพื่อสร้างประสบการณ์ที่พิเศษน่าประทับใจให้กับลูกค้าของร้านคุณ และเพิ่มยอดขายอย่างมั่นคงในระยะยาวได้เลย
สำหรับร้านค้าออนไลน์ร้านไหน ที่มีออเดอร์เข้ามามากมายจากการกระตุ้นยอดขายด้วย Loyalty Program จนจัดการไม่ทัน ก็อย่าลืมนึกถึง Carry Fulfillment กันนะครับ เราช่วยร้านคุณจัดการได้ทุกขั้นตอน ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการครบวงจรที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!