การจัดส่งสินค้ามีด้วยกันหลายรูปแบบ แต่ละแบบก็เหมาะกับสินค้าแตกต่างกัน หรือใช้ระยะเวลาที่แตกต่างกัน ดังนั้นผู้ขายและผู้ซื้อต้องศึกษาวิธีการขนส่งให้ดีเพื่อที่จะได้เลือกใช้บริการขนส่งได้อย่างเหมาะสม


Standard delivery คืออะไร

การขนส่งแบบ Standard delivery หรือ ส่งธรรมดาในประเทศ คือ การขนส่งแบบมาตรฐานภายในประเทศซึ่งมักจะมีราคาต่ำสุด เหมาะสำหรับการจัดส่งพัสดุที่มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 20 กิโลกรัมและขนาดของสินค้าที่รับได้สูงสุดคือ 100 ซม. X 100 ซม. x 100 ซม. รวมกัน 3 ด้านไม่เกิน 180 ซม. ดังนั้นการสั่งสินค้าจากแพลตฟอร์ม Marketplace ส่วนใหญ่จะใช้การขนส่งแบบ Standard delivery เพื่อเป็นการประหยัดค่าขนส่งของผู้ซื้อ ยกเว้นสินค้าที่ไม่สามารถจัดส่งผ่านช่องทางนี้ได้ หรือผู้ซื้อมีความต้องการอื่นเป็นพิเศษ


type of Standard delivery

Standard delivery มีกี่รูปแบบ

Standard Delivery เป็นรูปแบบการขนส่งธรรมดาในประเทศรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะมีผู้ให้บริการขนส่งหลายราย โดยปกติทางแพลตฟอร์มจะเป็นผู้เลือกผู้ให้บริการขนส่งที่เหมาะสมที่สุดให้กับแต่ละคำสั่งซื้อตามรูปแบบการจัดส่งที่ร้านค้าเลือก ประกอบกับน้ำหนัก ขนาดของพัสดุ ความรวดเร็วในการจัดส่ง และพื้นที่ให้บริการ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก


1. Standard Delivery หรือ ส่งธรรมดาในประเทศ

เหมาะสำหรับการจัดส่งพัสดุที่มีน้ำหนักรวมไม่เกิน 20 กิโลกรัม และขนาดของสินค้ารวมกัน 3 ด้านไม่เกิน 180 ซมโดยจะมีผู้ให้บริการหลายเจ้า ได้แก่

  • Kerry หนึ่งในบริษัทที่ให้บริการด้านการขนส่งพัสดุเอกชน เปิดให้บริการรับส่งพัสดุไปยังสถานที่ต่าง ๆ ครอบคลุมทั่วทุกพื้นที่ในไทย
  • J&T Express ให้บริการจัดส่งพัสดุด่วนและโลจิสติกส์ข้ามพรมแดน 
  • DHL Domestic ให้บริการจัดส่งสินค้าและพัสดุภายในประเทศเพื่อตอบสนองการเติบโตของธุรกิจ e-commerce
  • Flash Express หนึ่งในบริษัทโลจิสติกส์ที่ให้บริการจัดส่งพัสดุตรงถึงหน้าบ้าน
  • Ninjavan ให้บริการจัดส่งจนถึงหน้าบ้าน

2. Standard Delivery Bulky หรือ การส่งสินค้าขนาดใหญ่ 

เหมาะสำหรับการจัดส่งพัสดุที่มีน้ำหนักรวมเกินกว่า 20 กิโลกรัมขึ้นไป แต่ไม่เกิน 100 กิโลกรัม และมีขนาดของสินค้าใหญ่เกินกว่าการจัดส่งแบบธรรมดา แต่ขนาดสินค้ารวมกัน 3 ด้านต้องไม่เกิน 600 ซม. 


type of delivery

การจัดส่งสินค้ามีกี่ประเภท 

การจัดส่งสินค้ามีด้วยกันหลายประเภท โดยต้องเลือกให้เหมาะสมกับชนิดสินค้า ขนาดสินค้า ปลายทาง และความรวดเร็วในการจัดส่ง โดยแบ่งออกเป็น 4 ประเภท

1. Standard delivery

การจัดส่งแบบมาตรฐาน ซึ่งแบ่งออกเป็นแบบธรรมดากับการส่งสินค้าขนาดใหญ่ การจัดส่งแบบนี้จะพิจารณาาถึงขนาดของสินค้าเป็นหลัก

2. Thailand Post EMS หรือ การขนส่งแบบ EMS โดยไปรษณีย์ไทย 

เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการการจัดส่งที่รวดเร็ว และเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ไปรษณีย์ไทยจะครอบคลุมการให้บริการในทุกพื้นที่ซึ่งในบางที่ผู้ให้บริการบางรายอาจไม่มีให้บริการ

3. Economy – Thailand Post Registered Mail หรือ การขนส่งแบบลงทะเบียนโดยไปรษณีย์ไทย 

เหมาะสำหรับการขนส่งสินค้าที่ไม่เร่งรีบ โดยค่าบริการจะถูกกว่าแบบ Thailand Post EMS และต้องเป็นสินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม 

4.Other Logistics หรือ การขนส่งแบบอื่นๆ 

รูปแบบการจัดส่งโดยวิธีการอื่นตามที่ต้องการ นอกเหนือจากวิธีการข้างต้น เช่น SAME DAY DELIVERY การจัดส่งแบบห้องเย็นสำหรับสินค้าที่ต้องการการควบคุมอุณหภูมิ หรือการจัดส่งโดยร้านค้าเอง หากร้านค้านั้นมีระบบโลจิสติกส์


Standard delivery ต่างจากการส่งสินค้าแบบอื่นอย่างไร 

Standard delivery คือการจัดส่งสินค้าแบบธรรมดาภายในประเทศ ซึ่งสินค้าที่จัดส่งต้องเป็นสินค้าที่ไม่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษหรือไม่ต้องการความรวดเร็วในการจัดส่งเป็นพิเศษ สินค้าที่ต้องการการดูแลควบคุมอาจต้องเลือกใช้บริการขนส่งแบบอื่น เช่น อาหาร ของสด ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ยา ฯลฯ ซึ่งอาจมีค่าบริการที่สูงกว่าการส่งสินค้าแบบ Standard delivery


delivery fee

ค่าบริการสำหรับ Standard delivery 

ค่าบริการสำหรับการจัดส่งแบบ Standard delivery จะคำนวณตามขนาดและน้ำหนักของพัสดุเมื่อบรรจุลงกล่องเรียบร้อยแล้ว และในบางแพลตฟอร์มผู้ให้บริการจะสนับสนุนค่าจัดส่งด้วย เช่น Shopee จะสนับสนุนค่าจัดส่งสูงสุด 30 บาท เมื่อจัดส่งผ่าน Standard delivery และผู้ซื้อจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าจัดส่งส่วนที่เหลือ ทำให้ลูกค้าจ่ายค่าจัดส่งแค่บางส่วนเท่านั้น ร้านค้าจึงมีโอกาสในการขายมากขึ้น


ระยะเวลาในการจัดส่งของบริการ Standard delivery 

การจัดส่งแบบ Standard delivery ไม่ใช่การจัดส่งแบบด่วน ดังนั้นจึงต้องใช้ระยะเวลาในการจัดส่ง จัดส่งในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประมาณ1 – 2 วันทำการ จัดส่งในพื้นที่ต่างจังหวัดประมาณ 2 – 4 วันทำการ จัดส่งในพื้นที่ห่างไกลประมาณ 3 – 5 วันทำการ อย่างไรก็ตามระยะเวลาในการจัดส่งสินค้าหลังจากที่ลูกค้ากดสั่งซื้อสินค้าแล้วจะขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการจัดเตรียมสินค้าของผู้ขายด้วย ดังนั้นหากรู้สึกว่าสินค้าจัดส่งล่าช้าต้องตรวจสอบว่าเป็นเพราะการขนส่งหรือกระบวนการของร้านค้า


วิธีการเช็กการส่งสินค้าแบบ Standard delivery ทำอย่างไร

การเช็กการส่งสินค้า หรือ Track order ลูกค้าสามารถเข้าไปเช็คที่เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของผู้ให้บริการจัดส่งแต่ละราย จากนั้นกรอกเลขพัสดุสำหรับติดตาม เพื่อตรวจสอบข้อมูลได้ว่าพัสดุถูกจัดส่งถึงขั้นตอนไหนแล้ว หรือจัดส่งสำเร็จแล้วหรือยัง


ปัจจุบันการจัดส่งสินค้าเพิ่มความสะดวกสบายให้กับทั้งผู้ขายและผู้ซื้ออย่างมาก สามารถขนส่งได้ทุกอย่าง แค่นั่งอยู่กับบ้านก็สามารถกดสั่งสินค้าที่ต้องการได้ โดยไม่ต้องออกไปไหน เมื่อสินค้าถูกจัดส่งก็สามารถตรวจสอบได้ทันทีว่าผู้รับเป็นใคร โอการที่พัสดุสูญหายจึงมีน้อยมาก เรียกได้ว่าสะดวกสบายแบบสุด ๆ ไปเลย