api คืออะไร

เชื่อว่าหลายคนอาจเคยได้ยินคำว่า API มาบ้าง แต่อาจยังงง ๆ ว่าเจ้าสิ่งนี้คืออะไร ช่วยการตลาดออนไลน์ยังไง วันนี้ Carry Fulfillment จะพาไปทำความรู้จักกับ API พร้อมชี้ให้เห็นว่า ทำไมมันถึงเป็นอาวุธลับที่จะช่วยให้ธุรกิจออนไลน์ของคุณพุ่งทะยานไปอีกขั้นได้!


API คืออะไร? ทำไมถึงต้องรู้จัก?

API หรือ Application Programming Interface อาจฟังดูเหมือนศัพท์เชิงเทคนิคที่ชวนงง แต่จริง ๆ แล้วหากพูดให้เข้าง่าย ๆ API นั้นก็คือ “สะพาน” ที่เชื่อมต่อระหว่างโปรแกรมหรือแอปพลิเคชันต่างๆ เข้าด้วยกัน 

ลองนึกภาพว่า API เป็นเหมือนพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ที่คอยรับคำสั่งจากลูกค้า (แอปของเรา) แล้วส่งต่อไปยังครัว (เซิร์ฟเวอร์) เพื่อเตรียมอาหาร (ข้อมูล) แล้วนำกลับมาเสิร์ฟให้ลูกค้าอย่างรวดเร็วและถูกต้อง 

แล้วทำไมเราถึงต้องรู้จัก API ? ก็เพราะในยุคดิจิทัลนี้ API คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตแบบก้าวกระโดด มันช่วยให้เราเข้าถึงข้อมูลและบริการต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เหมือนมีผู้ช่วยคอยทำงานให้เรา 24 ชั่วโมง นั่นเอง

ประเภทของ API

  1. Private APIs: API สำหรับเรียกใช้ภายในองค์กร ช่วยให้การทำงานภายในองค์กรราบรื่นและปลอดภัย
  2. Partner APIs: API สำหรับพาร์ทเนอร์ ที่เปิดให้เฉพาะพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเท่านั้น มีเพียงนักพัฒนาภายนอกที่ได้รับอนุญาตที่สามารถเข้าถึงได้
  3. Public APIs: API ที่บุคคลภายนอกสามารถใช้งานได้ บางครั้งอาจมีค่าใช้จ่ายในการใช้งาน 
  4. Composite APIs: API ที่นำ API หลากหลายแบบมาผสานรวมกัน ช่วยให้สามารถสร้างระบบที่ซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูงได้

รูปแบบการทำงานของ API 

1. REST API (Representational State Transfer)

    REST API เป็น API ที่นิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะใช้งานง่าย ยืดหยุ่นสูง และรวดเร็ว API ประเภทนี้ทำงานผ่าน HTTP protocol และใช้ methods อย่าง GET, POST, PUT, DELETE ในการจัดการข้อมูล

    ตัวอย่างการใช้งาน: การดึงข้อมูลสินค้าจากระบบคลังสินค้า, การอัพเดตสถานะการสั่งซื้อ

    2. SOAP API (Simple Object Access Protocol)

      SOAP API เป็น API ที่มีความปลอดภัยสูงและเหมาะกับระบบที่ต้องการความน่าเชื่อถือมากๆ แต่อาจจะช้ากว่า REST API เล็กน้อย มักใช้ในระบบการเงินหรือการทำธุรกรรมที่สำคัญ

      ตัวอย่างการใช้งาน: ระบบชำระเงินออนไลน์, การเชื่อมต่อกับระบบธนาคาร

      3. GraphQL API

        GraphQL เป็น API รุ่นใหม่ที่ให้ความยืดหยุ่นสูงในการดึงข้อมูล สามารถระบุได้ว่าต้องการข้อมูลอะไรบ้าง ซึ่งช่วยลดปัญหา over-fetching และ under-fetching ของข้อมูล

        ตัวอย่างการใช้งาน: แอพพลิเคชันที่ต้องการข้อมูลที่ซับซ้อนและหลากหลาย เช่น social media platform

        4. Webhook API (Reverse API)

          Webhook ทำงานในลักษณะ “push” แทนที่จะเป็น “pull” คือแทนที่เราจะต้องคอยเช็คข้อมูลใหม่ Webhook จะส่งข้อมูลมาให้เราทันทีที่มีการเปลี่ยนแปลง

          ตัวอย่างการใช้งาน: ระบบแจ้งเตือนเมื่อมีการชำระเงิน, การอัพเดตสถานะการจัดส่งสินค้า

          application programming interface

          ประโยชน์ของ API ในการตลาดออนไลน์

          1. เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

          API ช่วยให้เราประหยัดเวลาและแรงงานได้มหาศาลเลยทีเดียว ลองนึกภาพว่าคุณต้องอัพเดตราคาสินค้าหลายร้อยรายการทุกวัน ถ้าทำด้วยมือพ่าค้าแม่ค้าคงเหนื่อยและท้อกันหมด แต่ด้วย API คุณสามารถอัพเดตราคาทั้งหมดได้ในพริบตา

          2. เชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

          ใครว่าการโพสต์คอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียหลาย ๆ แพลตฟอร์มพร้อมกันเป็นเรื่องยาก? ด้วย API คุณสามารถโพสต์คอนเทนต์ไปยัง Facebook, Instagram, Twitter และช่องทางอื่นๆ ได้พร้อมกันในคลิกเดียว ช่วยประหยัดเวลาอีกทั้งยังทำให้แบรนด์ของคุณมีความสม่ำเสมอในการอัพเดทคอนเทนต์บนทุกแพลตฟอร์ม

          3. วิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์

          API ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกได้แบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมผู้บริโภค, ยอดขาย, หรือประสิทธิภาพของแคมเปญการตลาด คุณสามารถปรับกลยุทธ์ได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการดึงข้อมูล การสรุปข้อมูลโดยใช้แรงคนแล้ว  

          4. ปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า

          API ช่วยให้คุณสามารถสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งที่เป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับลูกค้าแต่ละคน เช่น แนะนำสินค้าที่เหมาะสม, แสดงราคาที่อัพเดตแบบเรียลไทม์ หรือแม้แต่การแจ้งเตือนเมื่อสินค้าที่ลูกค้าสนใจกลับมามีในสต็อก ซึ่งนั่นก็ทำให้ลูกค้าเกิดประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ด้วยเช่นกัน

          5. เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหา (SEO)

          API ช่วยให้คุณจัดการ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอัพเดต Meta tags, สร้าง Sitemap อัตโนมัติ หรือติดตามอันดับคีย์เวิร์ด เป็นตัวช่วย ที่เพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ บน Google ได้ง่ายขึ้น

          วิธีใช้ API เพื่อเพิ่มยอดขาย

          • สร้างระบบแนะนำสินค้าอัจฉริยะ: ใช้ API เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการช้อปปิ้งของลูกค้า แล้วนำเสนอสินค้าที่พวกเขาน่าจะสนใจ นี่ถือเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีในการเพิ่มยอดขายต่อออเดอร์และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
          • ระบบแจ้งเตือนสินค้าคงเหลือ: ใช้ API เชื่อมต่อกับระบบคลังสินค้าเพื่อแจ้งเตือนลูกค้าเมื่อสินค้าที่พวกเขาสนใจกลับมามีในสต็อก ช่วยในการกระตุ้นยอดขายและสร้างความภักดีต่อแบรนด์ได้อย่างดี 
          • ระบบตั้งราคาแบบไดนามิก: ใช้ API เพื่อปรับราคาสินค้าแบบเรียลไทม์ตามอุปสงค์และอุปทานในตลาด ช่วยให้คุณสามารถตั้งราคาที่แข่งขันได้และเพิ่มกำไรสูงสุด
          • บูรณาการกับระบบการชำระเงิน: ใช้ API ของระบบชำระเงินต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้หลากหลายช่องทาง ยิ่งสะดวก ยิ่งง่ายต่อการตัดสินใจซื้อ
          • สร้างแคมเปญการตลาดแบบเฉพาะเจาะจง: ใช้ API เพื่อเก็บข้อมูลลูกค้าและสร้างแคมเปญการตลาดที่เฉพาะเจาะจงสำหรับแต่ละกลุ่มเป้าหมาย ทำให้การตลาดของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น และเพิ่มโอกาสในการขาย
          api

          ตัวอย่างการใช้ API ในปัจจุบัน

          Login API

          • หนึ่งใน API ที่เราหลายคนคุ้นเคยกันดีที่สุดในตอนที่เข้าใช้งานแอพพลิเคชันหนึ่ง ๆ แล้วระบบจะขึ้นโชว์ “Sign in with Google” หรือ “Login with Facebook”  โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องกรอกอีเมลและรหัสใหม่ ซึ่ง API จะดึงข้อมูลเพื่อตรวจสอบว่าผู้ใช้งานได้เคยล็อกอินไว้แล้วหรือยัง ซึ่งถ้าเคยแล้วก็สามารถกดปุ่ม Sign in/ Log in with… และเข้าใช้งานแอปนั้นๆ ได้ทันที

          Social Media API

          • YouTube API: ตัวอย่างการใช้งานสุดเจ๋งของ YouTube API คือการปรับชื่อคลิปวิดีโออัตโนมัติตามยอดวิว เช่น วิดีโอที่ชื่อ “รวม เทคนิคการขาย คัดเฉพาะคลิป 1,000,000 วิว” สามารถเปลี่ยนชื่อได้อัตโนมัติเมื่อยอดวิวเพิ่มขึ้นเป็น 2,000,000 วิว ซึ่งทำให้ชื่อคลิปสะท้อนความนิยมได้ทันที เพิ่มความน่าสนใจให้กับผู้ชมใหม่ ๆ ที่เข้ามาเจอคลิป
          • Instagram API: API ของ Instagram ช่วยให้นักการตลาดหรือเจ้าของร้าน สามารถติดตามและจัดการการกล่าวถึงแบรนด์ได้อัตโนมัติ เช่น การค้นหา @mentions ของแบรนด์ ซึ่งรวบรวมข้อมูลการกล่าวถึงจากผู้ใช้งาน เพื่อตอบกลับคอมเมนต์ได้อย่างทันท่วงที ทำให้แบรนด์เข้าถึงและสื่อสารกับผู้ติดตามได้ใกล้ชิดมากขึ้น

          API อาจไม่ใช่คำที่คุ้นหูสำหรับนักการตลาดหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั่วไป แต่เชื่อเถอะว่าทุกวันนี้หลาย ๆ แบรนด์ต่างก็ใช้ประโยชน์จาก API กันทั้งนั้น เรียกได้ว่านี่คือกุญแจสำคัญที่จะปลดล็อกศักยภาพทางธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน 

          สำหรับร้านค้าออนไลน์ร้านไหน ที่มีออเดอร์เข้ามามากมายจนจัดการไม่ทัน ก็อย่าลืมนึกถึง Carry Fulfillment กันนะครับ เราช่วยร้านคุณจัดการได้ทุกขั้นตอน ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ เรามีระบบหลังบ้านที่สามารถเชือมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทําให้ร้านค้า ประหยัดเวลาในการจัดการออเดอร์ได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการครบวงจรที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!