การบริหารจัดการบัญชีเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจทุกประเภท ซึ่งนั่นก็รวมถึงธุรกิจร้านค้าออนไลน์และธุรกิจ E-commerce ที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบันด้วยเช่นกัน การใช้งานโปรแกรมบัญชีออนไลน์ช่วยให้ผู้ประกอบการทำบัญชีได้อย่างสะดวก อีกทั้งทั้งยังประหยัดเวลาและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารรายรับรายจ่ายของธุรกิจ 

วันนี้ Carry Fulfillment จึงจะมาแนะนำ 10 โปรแกรมบัญชีที่นิยมในปัจจุบันสำหรับร้านค้า ทั้งฟีเจอร์ จุดเด่น และ ราคา เราสรุปมาให้พ่อค้าแม่ค้าแล้วครบครัน มีอะไรบ้าง ตามไปดูกันได้เลยครับ 


เจ้าของร้านค้าออนไลน์กำลังจัดการรายรับรายจ่ายผ่านโปรแกรมบัญชีออนไลน์ / small business owner using accounting program on smatphone

ประโยชน์ของโปรแกรมบัญชีออนไลน์ต่อธุรกิจ

  1. ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเงิน: ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญ และทำการวิเคราะห์แนวโน้ม รวมถึงหาคำตอบสำหรับการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว
  2. ติดตามการขายและตรวจสอบสินค้า: ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการสต๊อกสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและการวางแผนการขายได้อย่างเป็นระบบ
  3. สร้างรายงานทางการเงิน: ทำให้ธุรกิจสามารถสร้างรายงานทางการเงินที่ครบถ้วน และอ่านข้อมูลได้อย่างง่ายดาย และวางแผนทางการเงินได้อย่างเหมาะสม
  4. เสริมประสิทธิภาพในการทำบัญชี: ในกรณีที่ธุรกิจมีนักจัดการบัญชีหลายคน การใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ช่วยให้นักบัญชีทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย สามารถทำงานไปพร้อมกันได้ ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นเรื่องที่สะดวกและมีประสิทธิภาพ

10 โปรแกรมบัญชีออนไลน์ยอดนิยมสำหรับร้านค้า

1. Peak

โปรแกรมบัญชี peak

ฟีเจอร์หลักของ Peak :

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน (บัญชีรับ-จ่าย, บัญชีลูกหนี้-เจ้าหนี้)
  • การสร้างใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน
  • การออกใบกำกับภาษีและรายงานภาษี
  • การติดตามสถานะการชำระเงิน
  • การสร้างรายงานทางการเงินแบบเรียลไทม์

จุดเด่นของ Peak:

  • อินเตอร์เฟซใช้งานง่าย
  • มีการรองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน
  • รองรับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง
  • ประมวลผลเร็ว

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน 
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น 500 บาท/เดือน

2. Express

โปรแกรมบัญชี express

ฟีเจอร์หลักของ Express:

  • การจัดการบัญชีรายรับรายจ่าย
  • การจัดการสินค้าคงคลัง
  • การออกใบกำกับภาษี
  • การรายงานภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT)
  • การสร้างรายงานทางการเงิน
  • ระบบวิเคราะห์การซื้อขายสินค้า

จุดเด่นของ Express:

  • การทำงานที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
  • รองรับการทำงานหลายสาขา
  • การใช้งานที่ง่ายและสะดวก
  • รองรับภาษาไทย

ราคา:

  • เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป แพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท 

3. Business Plus

โปรแกรมบัญชี business plus

ฟีเจอร์หลักของ Business Plus:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการสินค้าคงคลัง รายงานการเคลื่อนไหวของสินค้า
  • การออกใบกำกับภาษีและรายงานภาษี
  • การติดตามสถานะการชำระเงิน
  • การสร้างรายงานทางการเงิน

จุดเด่นของ Business Plus:

  • สามารถปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้
  • การรองรับหลายสาขาและหลายผู้ใช้
  • อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย

ราคา:

  • เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป แพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท 

4. SeniorSoft Account

โปรแกรมบัญชี seniorsoft account

ฟีเจอร์หลักของ SeniorSoft Account:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการสินค้าคงคลัง
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การสร้างรายงานทางการเงิน

จุดเด่นของ SeniorSoft Account:

  • ระบบที่มีความเสถียรและปลอดภัย
  • อินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย
  • การรองรับการใช้งานในหลายประเภทธุรกิจ
  • รองรับภาษาไทย

ราคา:

  • เป็นโปรแกรมสำเร็จรูป แพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 14,000 บาท 

5. Accrevo

โปรแกรมบัญชี accrevo

ฟีเจอร์หลักของ Accrevo:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การสร้างรายงานทางการเงิน
  • การทำงานร่วมกับระบบ ERP

จุดเด่นของ Accrevo:

  • ระบบการจัดการภาษีที่ครบถ้วน
  • รองรับการใช้งานในหลายสาขาธุรกิจ
  • การเชื่อมต่อกับระบบ ERP ที่ยืดหยุ่น

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน 
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น 3,000 บาท/ปี/บริษัท

6. AccCloud

โปรแกรมบัญชี acc cloud

ฟีเจอร์หลักของ AccCloud:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการสินค้าคงคลัง
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การสร้างรายงานทางการเงิน
  • ระบบ PoS ออนไลน์
  • ระบบจ่ายสลิปออนไลน์

จุดเด่นของ AccCloud:

  • ระบบคลาวด์ที่เสถียรและปลอดภัย
  • รองรับการทำงานหลายสาขา
  • การเชื่อมต่อกับระบบอื่น ๆ ที่ยืดหยุ่น
  • รองรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟน

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น 5,900 บาท/คน/ปี

7. QuickBooksThai

โปรแกรมบัญชี quickbooks thai

ฟีเจอร์หลักของ QuickBooks:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การติดตามค่าใช้จ่ายและการออกใบแจ้งหนี้
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การจัดการสินค้าคงคลัง
  • การสร้างรายงานทางการเงินแบบครบถ้วน

จุดเด่นของ QuickBooks:

  • ความสามารถในการปรับแต่งตามความต้องการ
  • ระบบที่ใช้งานได้ทั่วโลก
  • การรองรับการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันอื่นๆ

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน 
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 1,400 บาท

8. SMEMOVE

โปรแกรมบัญชี smemove

ฟีเจอร์หลักของ SMEMOVE:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน
  • การสร้างรายงานทางการเงิน

จุดเด่นของ SMEMOVE:

  • ระบบที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับธุรกิจ SME
  • การใช้งานที่ง่ายและสะดวก
  • การรองรับการใช้งานบนมือถือ

ราคา:

  • ใช้งานฟรี แต่จำกัดรายการการทำบัญชี
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้น 199 บาท/เดือน

9. Easy Acc

โปรแกรมบัญชี easy acc

ฟีเจอร์หลักของ Easy Acc:

  • การจัดการบัญชีพื้นฐาน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน
  • การสร้างรายงานทางการเงิน
  • รายงานสินค้าและวัตถุดิบคงเหลือ

จุดเด่นของ EasyAcc:

  • การใช้งานที่ง่ายและสะดวก
  • ระบบที่รองรับการใช้งานหลายสาขา
  • การรองรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง

ราคา:

  • แพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 4,000 บาท/ปี 

10. FlowAccount

โปรแกรมบัญชี flow account

ฟีเจอร์หลักของ FlowAccount:

  • การออกใบแจ้งหนี้และใบเสร็จรับเงิน
  • การติดตามสถานะการชำระเงิน
  • การจัดการภาษีและการคำนวณภาษีอัตโนมัติ
  • การจัดการบัญชีลูกหนี้และเจ้าหนี้
  • การสร้างรายงานทางการเงินแบบเรียลไทม์

จุดเด่นของ FlowAccount:

  • ใช้งานง่ายด้วยอินเตอร์เฟซที่เป็นมิตร
  • รองรับการใช้งานบนมือถือ
  • รองรับธุรกิจขนาดเล็กและสตาร์ทอัพ

ราคา:

  • ทดลองใช้งานฟรี 30 วัน 
  • ราคาแพ็คเกจเริ่มต้นที่ประมาณ 199 บาท/เดือน

เลือกใช้โปรแกรมบัญชีออนไลน์ยังไงดี?

  1. เลือกโปรแกรมบัญชีที่มีฟังก์ชันครบ หรืออย่างน้อยต้องตอบโจทย์การใช้งานของร้านค้าของคุณ 
  2. เลือกโปรแกรมบัญชีที่ถูกลิขสิทธิ์ เพื่อใช้ฟีเจอร์หรือฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ 
  3. สามารถใช้งานโปรแกรมบัญชีได้ทั้งบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต และสมาร์ทโฟน เพราะการทำธุรกิจออนไลน์จำเป็นต้องมีการตรวจสอบข้อมูลร้านค้าอย่างสม่ำเสมอ 
  4. เลือกโปรแกรมที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบการจัดการร้านค้าออนไลน์ได้ด้วย

โปรแกรมบัญชีออนไลน์นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อการทำธุรกิจในยุคนี้อย่างมาก เพราะช่วยให้เหล่าพ่อค้าแม่สามารถจัดการบัญชีได้อย่างง่ายดาย สะดวก เพราะสามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังเป็นการลดความเสี่ยงของข้อผิดพลาดในการทำบัญชี ทำให้ตัดสินใจในการทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และนอกจากการจัดการบัญชีที่ดีแล้ว ก็อย่าลืมเตรียมให้ความสำคัญกับการจัดการ จัดเก็บ และส่งสินค้าของแบรนด์คุณด้วยนะครับ ซึ่งทาง Carry Fulfillment เองก็มีบริการที่ครบวงจรที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแม่นยำและราบรื่น สามารถศึกษาบริการของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ