ในยุคที่โซเชียลมีเดียกลายเป็นส่วนสำคัญของการซื้อขายออนไลน์ การ Live สด ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ทรงพลังในการตลาดดิจิทัล ในการสื่อสารกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นการโปรโมทสินค้า แบ่งปันข้อมูล หรือกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างใกล้ชิด
วันนี้ Carry Fulfillment จะพาพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มาเรียนรู้เทคนิคไลฟ์สดขายของยังไงให้ปัง พร้อมแนะนำแพลตฟอร์มยอดฮิตที่เหมาะกับการโปรโมทสินค้า ช่วยให้ร้านค้าตัดสินใจเลือกช่องทางไลฟ์ได้อย่างมั่นใจ!

7 เทคนิค Live สด ขายของ
1. แจ้งวัน เวลา ช่องทางการไลฟ์สดล่วงหน้า
เพราะการเตรียมความพร้อมเป็นสิ่งสำคัญเสมอ เมื่อทางร้านค้าสามารถกำหนดวันเวลาและช่องทางการ Live สด ได้แล้ว ก็อย่าลืมแจ้งให้ลูกค้ารู้ล่วงหน้า นอกจากจะเป็นการทำให้ลูกค้าขาช้อปทั้งหลายเตรียมตัวที่จะเข้ามาดูแล้ว ยังเป็นสร้างความตื่นเต้นและความคาดหวังขึ้นในกลุ่มพวกเขาอีกด้วย ร้านค้าอาจจะใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียในการประกาศ เช่นการลง Story บน Facebook Instagram หรือ บรอดแคสต์แจ้งเตือนในหลาย ๆ ช่องทาง
2. เช็คอินเตอร์เน็ตให้ดี Wifi ต้องแรง
การ Live สด ที่ลื่นไหล ไม่มีสะดุด คือกุญแจสำคัญในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ชม ดังนั้น ก่อนเริ่มไลฟ์ก็อย่าลืมเช็คความแรงของอินเตอร์เน็ต สัญญาณ Wifi ที่ทางร้านใช้งาน ตรวจสอบว่าเครือข่ายมีความเสถียรเพียงพอที่จะรองรับการถ่ายทอดสด ที่สำคัญ ก็ควรมีแผนสำรอง เช่น การใช้ฮอตสปอตจากโทรศัพท์มือถือหรืออินเตอร์เน็ตสำรอง เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในระหว่างการ Live สด
3. เตรียมเนื้อหาของการไลฟ์สดให้พร้อม จะได้ไม่หลุดประเด็น
การเตรียมเนื้อหาสำหรับการ Live สด เป็นสิ่งที่ช่วยให้พ่อค้าแม่ค้าสามารถสื่อสารได้ตรงประเด็นและไม่หลุดหัวข้อ เตรียมสคริปต์คร่าว ๆ หรือรายการหัวข้อที่จะพูดไว้ล่วงหน้า เพื่อให้คุณมีแนวทางในการพูดและไม่หลุดไปจากสิ่งที่คุณตั้งใจนำเสนอ สิ่งนี้จะช่วยให้สามารถรักษาความสนใจของผู้ชมหรือลูกค้าได้ตลอดเวลา แถมยังช่วยให้มีความมั่นใจในการถ่ายทอดเนื้อหาอีกด้วย
4. สร้างบรรยากาศให้ตื่นเต้น น่าติดตาม
เพราะบรรยากาศของการ Live สด มีผลต่อความรู้สึกของผู้ชมอย่างมาก การสร้างบรรยากาศที่น่าตื่นเต้นและน่าติดตามจะช่วยให้ผู้ชมไม่อยากคลิกออกไปไหน ลองใช้เสียงแบ็คกราวด์เบา ๆ เพื่อสร้างความสนุกสนาน หรือเลือกใช้แสงสีที่ช่วยเพิ่มความตื่นเต้นให้กับการถ่ายทอดสด นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มความน่าสนใจโดยการจัดกิจกรรมหรือแจกของรางวัลในระหว่างการไลฟ์เพื่อให้ผู้ชมรู้สึกมีส่วนร่วมและสนุกไปด้วยได้
5. ทักทายคนดู/ลูกค้าตลอด อย่าพูดคนเดียว
การ Live สด ไม่ใช่แค่การพูดคนเดียว แต่คือการสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้ชมอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น อย่าลืมทักทายและตอบคำถามของผู้ชมในระหว่างการไลฟ์ สิ่งนี้จะช่วยให้ผู้ชมรู้สึกว่าได้เป็นส่วนหนึ่งของบทสนทนา มีความสนใจและติดตามจนจบ ทำให้การ Live สด ของร้านคุณมีความน่าสนใจและเป็นที่จดจำมากขึ้น
6. อุปกรณ์เสริมเพื่อความโปร
แม้ว่าอุปกรณ์พื้นฐานอย่างโทรศัพท์มือถือจะเพียงพอสำหรับการ Live สด อยู่แล้ว แต่การใช้อุปกรณ์เสริมบางอย่างสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพและความเป็นมืออาชีพได้ ลองใช้ไมโครโฟนเสริมเพื่อให้เสียงชัดเจนขึ้น หรือใช้กล้องที่มีคุณภาพสูงกว่าเพื่อให้ภาพคมชัด นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ขาตั้งกล้องและแสงไฟเสริมเพื่อให้ภาพที่ถ่ายทอดออกมาดูดีและมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
7. ปิดท้ายด้วยการบอกช่องทางการติดตาม
เมื่อถึงเวลาปิดท้ายการ Live สด อย่าลืมบอกผู้ชมหรือลูกค้าให้ติดตามคุณในช่องทางอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เว็บไซต์ หรือแม้กระทั่งการสมัครรับข่าวสาร โปรโมชันจากทางร้าน การปิดท้ายด้วยการบอกช่องทางการติดตามจะช่วยให้สามารถเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และเพิ่มโอกาสในการสร้างชุมชนหรือกลุ่มผู้ติดตามที่ภักดีต่อร้านค้าออนไลน์ของคุณ
แพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับ Live สด
เมื่อพูดถึงการขายของผ่าน Live สด ไม่มีอะไรที่ดีไปกว่าการเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับสินค้าและกลุ่มเป้าหมายของร้าน การเลือกใช้แพลตฟอร์มที่ถูกต้องไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการขายอย่างมีประสิทธิภาพ มาดูกันว่าหากคุณต้องการทำไลฟ์เพื่อขายของ แต่ละแพลตฟอร์มมีข้อดี จุดเด่น และกลุ่มเป้าหมายอย่างไรบ้าง

Tiktok Live
- ข้อดี: Tiktok Live เป็นแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรง เน้นการสร้างคอนเทนต์สั้น ๆ ที่สนุกสนานและสร้างสรรค์ การ Live สด บน Tiktok ช่วยให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เป็นคนรุ่นใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินค้าที่มีความอินเทรนด์หรือเน้นความสวยงาม
- จุดเด่น: ฟีเจอร์ไลฟ์แบบเรียลไทม์พร้อมการมีปฏิสัมพันธ์แบบทันที ช่วยให้คุณสามารถตอบคำถามของลูกค้าและทำการขายได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ Tiktok ยังมีฟีเจอร์ให้ผู้ชมส่งของขวัญหรือไอเท็มในขณะไลฟ์ ช่วยเพิ่มรายได้และความสนุกในการไลฟ์ได้อย่างดี
- กลุ่มเป้าหมาย: คนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 16-30 ปี ที่ชื่นชอบการดูคอนเทนต์ที่มีความสนุกสนานและรวดเร็ว
Facebook Live
- ข้อดี: Facebook เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก การ Live สด บน Facebook ทำให้ร้านคุณสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นคนรุ่นใหม่หรือคนอายุรุ่นกลาง นอกจากนี้ การไลฟ์บน Facebook ยังสามารถแชร์ไปยังกลุ่มหรือหน้าเพจต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย เพิ่มการมองเห็น และชวนคนมาดูไลฟ์ได้อย่างสะดวก
- จุดเด่น: Facebook มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนเมื่อคุณเริ่ม Live สด ทำให้ผู้ติดตามของคุณไม่พลาดการรับชม และยังสามารถบันทึกวิดีโอไว้ให้คนดูย้อนหลังได้ ช่วยให้คุณสามารถสร้างยอดขายได้ทั้งในช่วงที่ถ่ายทอดสดและหลังจากนั้น
- กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 18-50 ปี ครอบคลุมทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มที่ชอบช้อปปิ้งออนไลน์และติดตามเพจสินค้า
Instagram Live
- ข้อดี: Instagram Live เหมาะสำหรับการสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าแบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะสินค้าที่เน้นภาพลักษณ์ ความสวยงาม หรือแบรนด์แฟชั่น การถ่ายทอดสดผ่าน Instagram ทำให้คุณสามารถสื่อสารกับผู้ชมที่เป็นแฟนคลับของร้านคุณได้โดยตรง
- จุดเด่น: Instagram มีฟีเจอร์ Story ที่ช่วยให้คุณสามารถแชร์คลิปจากการ Live สด ให้ผู้ติดตามดูย้อนหลังได้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์การแจ้งเตือนและการมีปฏิสัมพันธ์แบบเรียลไทม์ ทำให้คุณสามารถตอบคำถามของลูกค้าและทำการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18-35 ปี ที่ให้ความสำคัญกับแฟชั่น ความสวยงาม และการติดตามเทรนด์
YouTube Live
- ข้อดี: YouTube Live เป็นแพลตฟอร์มที่เหมาะกับการถ่ายทอดสดที่มีความยาว และมีเนื้อหาที่ต้องการคุณภาพสูง ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอความละเอียดสูงหรือเสียงที่ชัดเจน การไลฟ์บน YouTube ยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการข้อมูลเชิงลึกหรือเนื้อหาที่มีรายละเอียดมากขึ้น
- จุดเด่น: YouTube เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ชมสามารถค้นหาและดูวิดีโอย้อนหลังได้ง่าย ๆ ทำให้การ Live สด ของคุณสามารถสร้างยอดขายได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Super Chat ที่ช่วยให้ผู้ชมสามารถบริจาคเงินให้กับคุณได้ในขณะ Live สด
- กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มผู้ใช้งานที่มีอายุตั้งแต่ 20-45 ปี ที่สนใจเนื้อหาที่มีรายละเอียดและต้องการข้อมูลเชิงลึก เช่น การรีวิวสินค้า การสาธิตการใช้งาน เป็นต้น
Shopee Live
- ข้อดี: Shopee เป็นแพลตฟอร์ม E-commerce ที่เน้นการขายของออนไลน์โดยเฉพาะ การทำ Live สด บน Shopee ช่วยให้คุณสามารถโปรโมทสินค้าและขายสินค้าได้ทันทีในขณะถ่ายทอดสด ลูกค้าสามารถทำการสั่งซื้อได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชัน Shopee
- จุดเด่น: Shopee มีระบบคูปองส่วนลดและโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะในระหว่างการไลฟ์ ทำให้คุณสามารถดึงดูดลูกค้าให้ทำการสั่งซื้อได้มากขึ้น นอกจากนี้ Shopee ยังมีระบบการแจ้งเตือนเมื่อมีการเริ่ม Live สด ช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผู้ชม
- กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีอายุตั้งแต่ 18-45 ปี โดยเฉพาะผู้ที่ชอบช้อปปิ้งและติดตามโปรโมชั่นพิเศษ
Lazada Live
- ข้อดี: Lazada ก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่เน้นการขายสินค้าออนไลน์ การทำ Live สด บน Lazada ช่วยให้คุณสามารถนำเสนอสินค้า พูดคุยกับลูกค้า และรับคำสั่งซื้อได้ทันที โดยเฉพาะในช่วงแคมเปญพิเศษที่มีการลดราคาหรือโปรโมชัน
- จุดเด่น: Lazada Live หรือ Laz Live มีฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าได้ทันทีผ่านลิงก์ในวิดีโอ และมีระบบคูปองส่วนลดเฉพาะในระหว่างการ Live สด นอกจากนี้ ยังมีระบบแจ้งเตือนที่ช่วยให้ผู้ชมไม่พลาดการรับชม
- กลุ่มเป้าหมาย: กลุ่มผู้ซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีอายุตั้งแต่ 18-45 ปี โดยเฉพาะผู้ที่มองหาดีลและโปรโมชั่นพิเศษในการช้อปปิ้ง
การทำ Live สด ให้ประสบความสำเร็จไม่ใช่แค่เรื่องของการกดปุ่ม “เริ่มถ่ายทอดสด” หรือ “Live”อย่างเดียวเท่านั้น แต่คือการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อมในทุก ๆ ด้าน ตั้งแต่การเลือกแพลตฟอร์มที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการเตรียมเนื้อหาที่น่าสนใจ และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าหรือคนดูแบบเรียลไทม์ หากพ่อค้าแม่ค้านำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ รับรองว่าการ Live สด ของร้านค้าคุณจะไม่เพียงแค่น่าสนใจ แต่ยังดึงดูดยอดผู้ชมและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน!
สำหรับร้านค้าออนไลน์ร้านไหน ที่มีออเดอร์เข้ามามากมายจากไลฟ์สดจนจัดการไม่ทัน ก็อย่าลืมนึกถึง Carry Fulfillment กันนะครับ เราช่วยร้านคุณจัดการได้ทุกขั้นตอน ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการครบวงจรที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!