เจ้าของร้านค้าออนไลน์ทุกคนต่างรู้ดีว่าการจัดส่งเป็นหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ ซึ่งในยุคดิจิทัลที่เทรนด์การซื้อสินค้าออนไลน์กับการจัดส่งสินค้ากำลังเติบโตและถูกพัฒนาขึ้นอย่างรวดเร็วนี้ คำว่า Drop Off เริ่มเป็นที่รู้จักและกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ บทความนี้จะพาเหล่าพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไปทำความรู้จักกับ Drop Off ที่อาจจะเป็นคำตอบในการทำธุรกิจที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

Drop Off คืออะไร
Drop Off คือบริการส่งพัสดุที่ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย โดยไม่ต้องรอให้มีบริการรับของที่บ้าน แค่นำพัสดุไปฝากที่จุดให้บริการ Drop Off ที่ตั้งไว้ตามจุดต่างๆ ซึ่งมีหลากหลายบริษัทขนส่งที่ให้บริการนี้ไม่ว่าจะเป็นของภาคเอกชนอย่าง Kerry, J&T Express หรือภาครัฐบาลอย่างไปรษณีย์ไทย ทั้งนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ขายและผู้บริโภคที่หลากหลาย
Drop Off vs Pick Up
Drop Off กับ Pick Up ถือเป็นสองรูปแบบการจัดส่งสินค้าในยุค E-commerce ที่เป็นที่นิยม สำหรับการส่งของแบบ Pick Up นั้นจะต้องมีการจัดเวลาให้เจ้าหน้าที่บริษัทขนส่งมาที่บ้านหรือที่ร้านค้าเพื่อรับพัสดุไปส่งให้ผู้ซื้อแม้ว่าอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของเวลาที่นัดหมายและการรอคิว แต่ก็ถือเป็นความสะดวกสำหรับร้านค้าที่ไม่สามารถเดินทางไปยังจุด Drop Off ได้
Drop Off กับ Pick Up แบบไหนดีกว่ากัน?
การเลือกใช้ Drop Off หรือ Pick Up นั้นขึ้นอยู่กับความสะดวก ความต้องการของแต่ละร้านค้า Drop Off ช่วยประหยัดเวลา ไม่ต้องรอเจ้าหน้าที่มารับ ในขณะที่ Pick Up ก็มีข้อดีในเรื่องของความสะดวกที่ไม่ต้องเดินทางไปจุดบริการเพื่อส่งพัสดุ อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนการจัดส่งและการติดตามสถานะการจัดส่งของทั้งสองวิธีนั้น สามารถทำได้โดยการตรวจสอบสถานะจาก Tracking number ที่ทางบริษัทขนส่งให้มา ทำให้ผู้ขายและผู้ซื้อติดตามได้ง่ายๆ

ข้อดีของ Drop Off ต่อร้านค้าออนไลน์
การใช้บริการ Drop Off นั้นมีเป็นกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์อย่างมาก เนื่องจากมีข้อดีที่ช่วยพัฒนาการบริการและสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้อย่างหลายวิธี:
1. ลดต้นทุนการจัดส่ง
หากเปรียบเทียบกับการขนส่งแบบ Pick Up ที่ร้านค้าต้องเรียกรถมารับทำให้มีค่าใช้จ่ายในการใช้บริการ แต่สำหรับบริการ Drop Off จะช่วยให้ร้านค้าประหยัดต้นทุนมากขึ้น โดยเฉพาะการไปส่งสินค้าพร้อม ๆ กันหลายชิ้นก็จะมีต้นทุนถูกลงตามไปอีก นอกจากนี้ บริการ Drop Off ของหลาย ๆ ขนส่งก็มีการจัดโปรโมชันหรือสิทธิพิเศษให้ร้านค้าออนไลน์อยู่เสมอ ก็ช่วยให้แบรนด์ลดต้นทุนลงไปได้มากยิ่งขึ้น
2. สะดวกสบาย
ร้านค้าออนไลน์นั้นสามารถส่งพัสดุได้ที่จุด Drop Off ที่ใกล้บ้านหรือสะดวกที่สุด โดยสามารถเลือกเวลาในการส่งได้เอง นอกจากนี้ ทุกวันนี้บริการขนส่งต่าง ๆ ก็ขยายสาขาเพิ่มขึ้นหลายจุด เพื่อให้ร้านค้าเข้าถึงบริการได้มากที่สุดและสะดวกที่สุดอีกด้วย
3. รวดเร็วทันใจ
ระบบการให้บริการของ Drop Off นั้นถือว่ามีขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก รวดเร็ว ช่วยประหยัดเวลาให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ต้องคอยต่อคิวยาวหากเทียบกับการส่งสินค้าแบบดั้งเดิม แถมยังได้เลข Tracking ทันทีหลังใช้บริการ สามารถส่งต่อให้ลูกค้าได้เลย ถือเป็นการสร้างบริการที่น่าพึงพอใจให้แก่ลูกค้าไปในตัวได้
4. มีความยืดหยุ่นในการขนส่ง
ทุกวันนี้มีผู้ใช้บริการขนส่งแบบ Drop Off อยู่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็นทางภาครัฐหรือภาคเอกชน ทำให้ร้านค้าออนไลน์มีตัวเลือกที่หลากหลาย สามารถเลือกใช้ขนส่งที่มีสาขาใกล้กับร้านค้าที่สุด, ราคาค่าบริการถูกที่สุด, หรือแม้แต่สาขาที่ใกล้กับลูกค้ามากที่สุด สำหรับกรณีเร่งด่วน กล่าวได้ว่าตอบโจทย์ทั้งฝั่งร้านค้าและลูกค้าได้อย่างดี
เมื่อพิจารณาจากข้อดีเหล่านี้ การใช้บริการ Drop Off จึงเป็นวิธีที่ดีที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถจัดส่งสินค้าได้ย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจออนไลน์และความพึงพอใจของลูกค้าในระยะยาว

วิธีการส่งสินค้าแบบ Drop Off มีขั้นตอนอะไรบ้าง
วิธีการส่งสินค้าแบบ Drop Off มีขั้นตอนที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เพื่อให้ร้านค้าออนไลน์ส่งสินค้าอย่างรวดเร็วและสะดวก ดังนี้
1. เตรียมสินค้าเพื่อจัดส่ง – ร้านค้าจำเป็นต้องแพ็กสินค้าให้เรียบร้อยพร้อมสำหรับการจัดส่ง ห่อบับเบิ้ลกันกระแทกให้แน่นหนา สำหรับสินค้าที่แตกหักได้ง่าย ติดเทปกาวให้แน่นโดยเฉพาะบริเวณที่เปิด-ปิดได้
2. เตรียมใบปะหน้าและ QR Code – กรอกข้อมูลผู้รับ ผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์หรือโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้สามารถทำรายการได้หลากหลายช่องทาง ขึ้นอยู่กับนโยบายของผู้ให้บริการขนส่งแต่ละเจ้า
3. นำสินค้าไปยังจุด Drop Off – เลือกจุด Drop Off ที่ใกล้ที่สุดและสะดวกที่จะนำสินค้าไปส่ง
4. ส่งสินค้าที่จุด – มอบพัสดุพร้อมใบปะหน้าที่มี QR Code ให้กับเจ้าหน้าที่ที่จุด Drop Off
5. รับเลข Tracking – เจ้าหน้าที่จะมอบเลขติดตามสินค้า (Tracking number) ให้เพื่อตรวจสอบสถานะการจัดส่ง
6. ติดตามสถานะ – สามารถติดตามสถานะการจัดส่งของสินค้าด้วย Tracking number ได้ทุกขั้นตอน
Drop Off ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์หรือไม่
การใช้บริการ Drop Off ช่วยให้ร้านค้าออนไลน์สามารถควบคุมเวลาในการส่งสินค้าได้มากขึ้น และผู้ขายยังสามารถให้บริการลูกค้าได้ลื่นไหลขึ้น นอกจากนี้ การใช้บริการ Drop Off ยังมีโอกาสได้รับส่วนลดและโปรโมชั่นเพิ่มเติม ทำให้การใช้บริการ Drop Off ตอบโจทย์ร้านค้าออนไลน์อย่างมาก ในเรื่องของการประหยัดต้นทุนการจัดส่ง สะดวก และรวดเร็ว
Drop Off จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่ร้านค้าออนไลน์ควรพิจารณา เพื่อเพิ่มความคล่องตัวและประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้าให้กับลูกค้าของตนเอง หากคุณเป็นพ่อค้าแม่ค้าที่ต้องส่งสินค้าที่มีจำนวนมากและต้องการตัวช่วยให้การขนส่งราบรื่น Carry Fulfillment มีบริการส่งสินค้าร่วมกับบริษัทขนส่งชั้นนำที่ครบวงจร ดูบริการของเราได้เลยที่นี่