what is fhr fast handover rate

เคยสงสัยไหมว่า ทำไมบางร้านบน Shopee ถึงได้โปรโมตดี เห็นบ่อย มีป้ายร้านแนะนำ ทั้งที่สินค้าคล้ายกับร้านเราเป๊ะ?

หนึ่งในเบื้องหลังสำคัญที่ช่วยให้ร้านได้สิทธิพิเศษมากมายก็คือ “คะแนนประสิทธิภาพ” ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Fast Handover Rate (FHR) หรืออัตราการส่งต่อพัสดุที่รวดเร็ว

หลายคนอาจยังไม่รู้ว่า FHR คืออะไร, Shopee คำนวณยังไง หรือเกี่ยวอะไรกับความน่าเชื่อถือของร้าน วันนี้ Carry Fulfillment จะพาไปรู้จักกับตัวเลขตัวนี้แบบเข้าใจง่าย พร้อมบอกวิธีปรับปรุงค่า FHR ให้ดีขึ้นแบบไม่ต้องเดา!


Fast Handover Rate (FHR) คืออะไร?

Fast Handover Rate (FHR) หรืออัตราการจัดส่งเร็ว เป็นตัววัดสำคัญที่แสดงถึงประสิทธิภาพของร้านค้าในการส่งมอบสินค้าหลังจากได้รับคำสั่งซื้อ โดยวัดจากความสามารถของร้านในการส่งพัสดุให้กับบริษัทขนส่งภายในเวลาที่ Shopee กำหนดไว้

FHR วัดยังไง? ต้องส่งของภายในกี่โมงถึงจะทันเวลา?

Shopee จะประเมิน FHR จากคำสั่งซื้อทั้งหมดของร้านคุณในช่วง 30 วันที่ผ่านมา แล้วเช็กว่าคุณส่งของทันตามรอบเวลาที่กำหนดไว้หรือเปล่า ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 2 แบบ ตามเวลาที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน

  • เมื่อคำสั่งซื้อได้รับการยืนยันก่อนเวลา 12:00 น. ร้านค้าต้องส่งพัสดุให้กับขนส่งภายใน 23:59 น. ของวันเดียวกัน
  • หากคำสั่งซื้อได้รับการยืนยันหลังเวลา 12:00 น. ร้านค้าจะมีเวลาจนถึง 23:59 น. ของวันถัดไป เพื่อจัดส่งสินค้าให้บริษัทขนส่ง

พูดง่าย ๆ คือ Shopee ให้เวลาคุณประมาณ 12–36 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่ลูกค้ากดยืนยัน) เพื่อจัดการแพ็กของ และนำไปส่งให้บริษัทขนส่ง

FHR คำนวณยังไง? เข้าใจเงื่อนไขก่อนจัดส่ง จะได้ไม่พลาดรอบ!

หลายคนอาจเข้าใจว่า Fast Handover Rate (FHR) นั้นแค่ดูว่าส่งของเร็วหรือไม่ แต่ในความเป็นจริงแล้วเบื้องหลังการคำนวณ FHR นั้นมีรายละเอียดที่ต้องรู้ โดยเฉพาะเงื่อนไขของเวลาตัดรอบและวันหยุด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อคะแนนของร้านคุณ

ระบบของ Shopee จะพิจารณาจากช่วงเวลาที่คำสั่งซื้อได้รับการยืนยัน และคำนวณระยะเวลาที่ใช้ในการส่งพัสดุไปยังบริษัทขนส่งให้ทันกำหนด ซึ่งสามารถแบ่งได้เป็น 3 สถานการณ์หลัก ๆ ดังนี้

กรณีคำสั่งซื้อในวันทำการปกติ

หากลูกค้ายืนยันคำสั่งซื้อในวันธรรมดา ระบบจะอิงเวลา 12:00 น. เป็นเส้นแบ่งเพื่อกำหนดรอบจัดส่ง

  • ออเดอร์ที่ยืนยันก่อนเที่ยงวัน (12:00 น.) ร้านค้าจะต้องส่งมอบพัสดุให้ขนส่งภายในเวลา 23:59 น. ของวันเดียวกัน
  • ออเดอร์ที่ยืนยันหลังเที่ยงวัน (หลัง 12:00 น.) ร้านจะมีเวลาถึง 23:59 น. ของวันถัดไปในการจัดส่งให้ทันรอบ

แม้ดูเหมือนจะมีเวลาเหลือเฟือ แต่ถ้าไม่วางแผนดี ๆ ก็อาจพลาดรอบได้ง่าย โดยเฉพาะช่วงออเดอร์แน่น!

กรณีวันถัดไปเป็นวันหยุด (เช่น วันนักขัตฤกษ์)

ถ้าลูกค้ากดยืนยันออเดอร์ในวันก่อนวันหยุด ระบบจะขยับเวลาการจัดส่งให้ตามปฏิทินวันทำการ เช่น

  • ถ้าได้รับออเดอร์หลัง 12:00 น. และวันถัดไปเป็นวันหยุด นั่นแปลว่าร้านสามารถส่งของในวันทำการถัดไปอีกวันได้เลย (เช่น วันที่ 3 หลังจากวันยืนยันคำสั่งซื้อ)
  • แต่ถ้าได้รับก่อน 12:00 น. ยังต้องพยายามจัดส่งให้ทันภายในวันเดียวกัน เพื่อไม่ให้หลุดรอบระบบจะไม่นับวันหยุดเป็นวันจัดส่ง ดังนั้นถ้าเจอวันหยุดต่อเนื่อง ต้องตรวจสอบรอบส่งให้ดี

กรณีลูกค้าสั่งในวันหยุด

ถ้าออเดอร์เข้ามาในวันเสาร์ อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ ระบบจะเริ่มนับเวลาวันถัดไปตั้งแต่วันทำการแรกหลังวันหยุด

  • ไม่ว่าลูกค้าจะสั่งก่อนหรือหลัง 12:00 น. ร้านค้าจะต้องจัดส่งให้เสร็จภายใน วันที่ 3 หลังวันสั่งซื้อ โดยยังคงใช้เวลา 23:59 น. เป็นเส้นตายเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม หากร้านของคุณสามารถจัดส่งในวันหยุดได้จริง ก็จะได้เปรียบในการสร้างความพึงพอใจ และอาจทำให้ลูกค้าประทับใจจนกลับมาซื้อซ้ำอีกในอนาคต

FHR สำคัญอย่างไร? มีผลต่อการขายของบน Shopee มากแค่ไหน?3

business owners packing orders for delivery

หลายคนอาจเข้าใจว่าแค่ส่งของให้เร็วเป็นเรื่องของบริการหลังการขาย เท่านั้น แต่ความจริงแล้ว Fast Handover Rate (FHR) เป็นมากกว่านั้น เพราะมันคือดัชนีชี้วัดความน่าเชื่อถือของร้านคุณในสายตา Shopee และลูกค้า ที่ส่งผลต่อความสำเร็จของร้านแบบรอบด้าน

ลองคิดง่าย ๆ ว่า Shopee เป็น E-marketplace หรือตลาดกลางขนาดใหญ่ ที่มีร้านค้าหลายแสนร้าน และในทุกวัน Shopee ต้องคัดเลือกร้านที่น่าเชื่อถือเพื่อนำเสนอให้ลูกค้า และหนึ่งในเกณฑ์สำคัญที่ Shopee ใช้คือ FHR ของร้านนั้นดีแค่ไหน

ถ้า FHR ต่ำ จะเกิดอะไรขึ้น?

  • อันดับร้านลดลงแบบไม่รู้ตัว – ระบบอัลกอริธึมของ Shopee จะลดโอกาสการแสดงผลสินค้าของคุณในหน้าผลการค้นหา หากพบว่าคุณส่งของไม่ทันเวลาเป็นประจำ เพราะ Shopee ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ซื้อเป็นอย่างมาก 
  • หลุดจากแคมเปญและโปรโมชันดี ๆ – ร้านที่มี FHR ต่ำ อาจไม่ผ่านเกณฑ์ในการเข้าร่วมแคมเปญใหญ่ เช่น 9.9, 11.11 หรือ Flash Sale ซึ่งเป็นช่วงเวลาทำยอดขายมหาศาลของหลายร้าน
  • ลูกค้าไม่มั่นใจ ไม่กล้าซื้อซ้ำ – ลูกค้าในยุคนี้ให้ความสำคัญกับความเร็ว มากกว่าที่คิด ถ้าร้านส่งช้าแม้เพียงครั้งเดียว ก็อาจได้รับรีวิวไม่ดี หรือถูกยกเลิกคำสั่งซื้อได้ง่าย ๆ

ถ้า FHR สูง จะเกิดอะไรขึ้น?

  • มีโอกาสโชว์บนหน้าแรกหรือหน้าแคมเปญ – Shopee มีแนวโน้มที่จะโปรโมตร้านที่มีประวัติดี โดยเฉพาะร้านที่ส่งของไว เพราะถือว่าเป็นมิตรกับลูกค้า และลดปัญหาหลังการขาย
  • ได้สิทธิ์เข้าร่วมกิจกรรมพิเศษก่อนใคร – ร้านที่มีคะแนนบริการดี จะถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมแคมเปญหรือได้รับสิทธิ์ในโปรโมชันก่อนร้านอื่น เช่น การแจกโค้ดส่วนลด การโปรโมตสินค้าแบบพิเศษ เป็นต้น
  • ลูกค้าไว้ใจ ยอดขายโตขึ้นจริง – ลองคิดดูว่าคุณจะซื้อจากร้านที่ขึ้นว่า “จัดส่งภายในวันนี้” หรือ “เตรียมส่งใน 2 วัน” มากกว่ากัน? แน่นอนว่าร้านที่จัดส่งไว ย่อมได้ใจลูกค้า แถมยังมีโอกาสได้รับรีวิว 5 ดาวเพิ่มอีกด้วย
online seller packing parcel for delivery

วิธีเพิ่ม FHR ให้พุ่งแบบมืออาชีพ

เทคนิคจัดการร้านให้ส่งของไว ลูกค้าประทับใจ ระบบ Shopee ก็รัก!

การรักษา Fast Handover Rate ให้อยู่ในระดับสูงไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าร้านคุณมีระบบจัดการที่ดี และรู้จักวางแผนอย่างเป็นขั้นตอน วันนี้เราเอาเทคนิคที่ช่วยให้คุณเพิ่ม FHR ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาฝาก พร้อมรองรับออเดอร์ที่มากขึ้นโดยไม่ต้องเหนื่อยเพิ่ม

1. วางระบบการแพ็คและจัดส่งให้รัดกุม

อย่ารอให้ถึงวันสุดท้ายค่อยแพ็ค!

สิ่งสำคัญคือคุณต้องกำหนดขั้นตอนภายในร้านให้ชัดเจน เช่น เมื่อมีออเดอร์เข้ามาแล้ว ให้ตั้งเป้าว่าจะเตรียมของให้เสร็จภายใน 2–4 ชั่วโมง เพื่อเหลือเวลาเผื่อเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น สต๊อกไม่พอ หรือพนักงานไม่ครบทีม

Tip: ใช้ป้ายสีกำกับสถานะสินค้าในคลัง เช่น “พร้อมส่ง” “ต้องตรวจ” หรือ “ใกล้หมด” เพื่อช่วยให้ทีมทำงานรวดเร็วขึ้น

2. ใช้บริการ Fulfillment ให้เป็นผู้ช่วยมืออาชีพ

หากคุณเริ่มขายดีจนแพ็คของเองไม่ไหว หรือมีออเดอร์เข้ามาทุกวัน การใช้บริการ Fulfillment คือคำตอบที่ช่วยประหยัดทั้งเวลาและแรงงาน พร้อมรับประกันการจัดส่งที่รวดเร็ว

บริการ Fulfillment นั้นจะช่วยดูแลทุกขั้นตอนแทนคุณ ตั้งแต่รับของเข้าคลัง แพ็คของ ไปจนถึงส่งให้ขนส่งแบบตรงเวลาเป๊ะ ๆ เพื่อให้ร้านคุณรักษาคะแนน FHR ได้อย่างมั่นคง

3. เปิดการแจ้งเตือนคำสั่งซื้อ หรือติดระบบ OMS

ออเดอร์เข้ามาเมื่อไหร่ต้องรู้ทันที!

ถ้าคุณยังใช้แค่โทรศัพท์ในการเช็กคำสั่งซื้อ ลองเปิดการแจ้งเตือนของแอป Shopee หรือเชื่อมต่อกับระบบ Order Management System (OMS) เพื่อให้ทีมงานสามารถรับออเดอร์และเตรียมส่งได้แบบเรียลไทม์

Tips: OMS ยังสามารถช่วยให้คุณจัดการคำสั่งซื้อจากหลายแพลตฟอร์มได้ในที่เดียว ทั้ง Shopee, Lazada, หรือเว็บของตัวเอง

4. แพ็คสินค้าไว้ล่วงหน้า สำหรับสินค้าขายดี

ถ้าคุณมีสินค้ายอดฮิตที่ขายทุกวัน การ Prepack ไว้ล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเวลาไปได้มาก! 

เพื่อความสะดวกควร เตรียมกล่อง แพ็คของ ใส่ใบปะหน้าพร้อม และจัดเก็บเป็นระเบียบ เพื่อสามารถหยิบไปส่งได้ทันทีที่มีออเดอร์ เทคนิคนี้เหมาะมากในช่วงแคมเปญ เช่น 9.9 หรือ 12.12 ที่ออเดอร์พุ่งแบบกระฉูด

5. ส่งรอบเดียวให้ไวขึ้น อย่ารอให้รวมเยอะ

หลายร้านชอบรอให้ได้ออเดอร์เยอะ ๆ ค่อยส่งทีเดียว แต่ที่จริงแล้ว ถ้าคุณส่งได้ไวตั้งแต่รอบแรกของวัน จะยิ่งเพิ่ม FHR ได้ง่ายขึ้น เพราะทุกคำสั่งซื้อที่ออกไว ย่อมสร้างความประทับใจไว และลดโอกาสหลุดรอบเวลาที่ Shopee กำหนด

Tip: ลองตั้งเวลา “ปิดรอบจัดส่ง” ทุกวัน เช่น 15:00 น. เพื่อให้ทีมรู้ว่าจะต้องแพ็คทันเวลาไหน

FHR กับ Fulfillment: ตัวช่วยที่ร้านค้าไม่ควรมองข้าม

delivery girl blue uniform cap holding boxpackage

โตแค่ไหนก็ไม่กลัวส่งช้า ถ้าใช้ระบบจัดการที่ดี! 

เมื่อร้านค้าเริ่มเติบโต และมีออเดอร์เข้ามาเป็นร้อยชิ้นต่อวัน การจัดการด้วยทีมเล็ก ๆ หรือทำคนเดียวอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ ทั้งการจัดของผิด แพ็คไม่ทัน หรือวิ่งไปส่งของไม่ทันรอบ

ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้ FHR ของร้านคุณลดลงโดยไม่รู้ตัว

บริการ Fulfillment จึงกลายเป็นตัวช่วยสำคัญที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างตรงนี้ ด้วยระบบที่ออกแบบมาเพื่อรองรับร้านค้าออนไลน์โดยเฉพาะ

ข้อดีของ Fulfillment ต่อ FHR:

  • มีระบบ WMS (Warehouse Management System) ช่วยให้คุณติดตามคำสั่งซื้อได้แบบเรียลไทม์ พร้อมจัดการสต๊อกอัตโนมัติ
  • มีทีมมืออาชีพช่วยดูแล ตั้งแต่รับสินค้าเข้า ตรวจสอบคุณภาพ บริการแพ็คสินค้าให้ถูกต้อง ไปจนถึงจัดส่งตรงเวลา
  • ไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไปส่งของเอง ประหยัดเวลา ประหยัดแรง และโฟกัสกับการพัฒนาธุรกิจได้มากขึ้น
  • ลดโอกาสส่งช้าหรือส่งผิดพลาด เพราะทุกขั้นตอนมีระบบรองรับ และมีมาตรฐานการทำงานระดับมืออาชีพ

พ่อค้าแม่ค้าที่ขายของบน Shopee คนไหน ที่ยังไม่มั่นใจ ว่าร้านของตัวเอง ควรเริ่มใช้ Fulfillment Service หรือยัง ตามไปเช็กลิสต์ 12 สัญญาณที่ร้านค้าออนไลน์ควรใช้ Fulfillment Service กันก่อนเพื่อหาคำตอบได้นะครับ

carry fulfillment service

สำหรับร้านค้าออนไลน์ที่ออเดอร์ทะลัก จัดการไม่ทัน… Carry Fulfillment ช่วยคุณได้!

หากคุณเป็นร้านค้าออนไลน์ที่มีออเดอร์เข้ามาจากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, TikTok Shop หรือเว็บไซต์ของคุณเอง จนเริ่มรู้สึกว่าจัดการไม่ทัน ไม่ต้องกังวลครับ!  Carry Fulfillment พร้อมช่วยดูแลธุรกิจของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ เรามีระบบหลังบ้านที่สามารถเชื่อมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทําให้ร้านค้า ประหยัดเวลาในการจัดการออเดอร์ได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการที่ครบวงจร ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น อย่าปล่อยให้เรื่องสต๊อกและการจัดส่งกลายเป็นอุปสรรคในการโตของร้านคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!