what is marketplace

ในยุคที่อินเตอร์เน็ตเข้าถึงคนจำนวนมากได้อย่างครอบคลุม ทำให้การค้าขายที่เคยมีหน้าร้านตามสถานที่ต่าง ๆ อย่างตลาดหรือห้างสรรพสินค้า ต่างก็ผันตัวมาอยู่ในโลกออนไลน์ ไม่ว่าจะในรูปแบบของสื่อโซเชียลมีเดียของร้าน หรือตลาดออนไลน์อย่าง Marketplace ในบทความนี้เราจะไปดูกันว่า Marketplace คืออะไร มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร และ Marketplace ในไทยมีอะไรบ้าง 

Marketplace คืออะไร

Marketplace หรือมาร์เก็ตเพลส คือ แพลตฟอร์มออนไลน์ที่เป็นตัวกลางในการนำผู้ซื้อและผู้ขายมาเจอกัน โดยผู้ขายจะเข้ามาขายสินค้าที่ตนเองมีบนช่องทาง Marketplace นั้น ๆ โดยสามารถสร้างเป็นร้านค้าออนไลน์ได้ภายในแพลต ทั้งนี้ยังสามารถอัปเดตข้อมูลสินค้า สต๊อกสินค้า จัดการราคา ทำโปรโมชัน และการจัดการเรื่องการส่งสินค้าได้ ส่วนฝั่งผู้ซื้อก็จะเลือกใช้บริการแพลตฟอร์ม Marketplace ที่ตนเองสนใจหรือมีร้านค้าและสินค้าที่ต้องการอยู่ สามารถเลือกได้จากหลากหลายร้านค้า และเลือกชำระเงินได้หลากหลายวิธี 

จะเห็นได้ว่าหน้าที่หลักของ Marketplace คือการนำผู้ซื้อและผู้ขายที่มีความต้องการตรงกันมาเจอกันเพื่อให้เกิดยอดขาย สิ่งที่ Marketplace จะได้คือค่าคอมมิชชันจากแต่ละออเดอร์ที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มนั่นเอง 

Marketplace กับ e-Commerce ต่างกันอย่างไร

หลายคนอาจจะยังเข้าใจสับสนระหว่าง Marketplace และ e-Commerce ซึ่ง Marketplace เป็นแพลตฟอร์มที่รวมร้านค้าหลากหลายร้านเข้าไว้ด้วยกัน เช่น Shopee, Lazada, Amazon, eBay ฯลฯ แต่ e-Commerce เป็นเพียงการขายของออนไลน์ของแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งเท่านั้น ซึ่งการค้า การตลาด และการจัดการทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของแบรนด์ดังกล่าวเพียงแบรนด์เดียว อาจอยู่ในรูปแบบของเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันก็ได้ เช่น Nike, Zara, Apple ฯลฯ

person adding clothes cart online shopping

3 ปัจจัยหลักของการเป็น Marketplace 

Marketplace ไม่มีการเก็บสต๊อกสินค้า

Marketplace เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีการรวบรวมร้านค้าไว้เป็นจำนวนมาก รวมถึงจำนวนสต๊อกสินค้าที่หลากหลายประเภทและหลากหลายชิ้น แต่ถึงแม้ว่าสต๊อกเหล่านี้จะมีจำนวนมหาศาลแต่เป็นการจัดการโดยผู้ขายเองเป็นหลัก ดังนั้น Marketplace จึงไม่มีการสต๊อกสินค้าเป็นของตนเอง 

Marketplace สร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้มากกว่า

ข้อดีอย่างหนึ่งของการเป็น Marketplace คือ ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการผลิตสินค้า หรือทำการตลาดสินค้าชิ้นนั้น ๆ จึงทำให้สามารถทุ่มกำลังไปที่การบริการลูกค้าเป็นหลักได้ โดยเน้นที่การสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานแพลตฟอร์ม Marketplace ให้กับผู้ซื้อและผู้ขาย นอกจากนี้การที่มีผู้ขายหลาย ๆ เจ้าขายสินค้าในแพลตฟอร์มเดียวกัน ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกเยอะขึ้น ช่วยในการเปรียบเทียบราคาของสินค้า และซื้อสินค้าหลาย ๆ ชิ้นได้ภายในแพลตฟอร์มเดียว จึงสามารถสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าหรือผู้ซื้อได้มากกว่า

small business ecommerce businesses

Marketplace เป็นโมเดลธุรกิจที่เติบโตได้ 

เนื่องจาก Marketplace เป็นธุรกิจที่ไม่จำเป็นต้องมีสินค้าเป็นของตัวเอง เช่น Airbnb ไม่ต้องมีโรงแรม NocNoc ไม่ต้องมีเฟอร์นิเจอร์ ฯลฯ ก็สามารถดำเนินธุรกิจได้ ทำให้ Marketplace ถือเป็นอีกหนึ่งรูปบบธุรกิจที่มีศักยภาพในการเติบโตได้เป็นอย่างดี แตกต่างจากการที่แบรนด์สินค้าที่หันมาทำร้านค้าออนไลน์ของตัวเอง ต้องใช้ทุนเป็นจำนวนมากในการลงทุน และมีขีดจำกัดการขายแค่สินค้าของแบรนด์ตัวเองเท่านั้น 

Marketplace ในไทยมีอะไรบ้าง

ในไทยมี Marketplace หลายเจ้าด้วยกัน ทั้งแบบที่มีสินค้าหลากหลาย และแบบที่มีสินค้าเฉพาะกลุ่ม โดยแบบที่มีสินค้าทั่วไป เช่น Shopee, Lazada, Facebook, Tiktok shop ฯลฯ แบบสินค้าเฉพาะกลุ่ม เช่น NocNoc, Airbnb ฯลฯ

Marketplace มีข้อดี ข้อเสียอย่างไร

แม้ว่าการค้าขายในช่องทาง Marketplace จะดูไม่ยุ่งยากและเป็นโอกาสทางการค้าที่ดีให้กับแบรนด์สินค้าทุกขนาด ทั้งไซซ์เล็กไปจนถึงแบรนด์ใหญ่ระดับโลกก็ตาม แต่ Marketplace เองก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียด้วยเช่นกัน

ข้อดีของ Marketplace

  • เป็นช่องทางเพิ่มยอดขาย: ร้านค้าหรือแบรนด์มากมายที่ต้องการเพิ่มยอดขายในโลกออนไลน์ต่างเลือกที่จะใช้งาน Marketplace ที่ได้รับความนิยมจากผู้ซื้อ เช่นเดียวกับธุรกิจออฟไลน์แต่เดิม ที่ร้านค้าบางร้านยอมลงทุนที่จะเปิดหน้าร้านขนาดเล็กในห้างสรรพสินค้า เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น และทำยอดขายได้มากขึ้น Marketplace จึงทำหน้าที่เหมือนห้างฯ นั่นเอง
  • ช่วยลดค่าใช้จ่าย: ในการขายสินค้านอกจากเรื่องของต้นทุนการผลิตแล้ว ต้นทุนทางการตลาดก็มากเช่นกัน โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ในปัจจุบัน ดังนี้นแพลตฟอร์ม Marketplace จึงมีหน้าที่ในการช่วยร้านค้าจัดการสิ่งเหล่านี้ เป็นอีกทางในการลดต้นทุน แลกกับการจ่ายค่าธรรมเนียมในแต่ละออเดอร์ที่เกิดขึ้น
  • จัดการภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้: เนื่องจากใน Marketplace สามารถสร้างร้านค้าแยกออกไปตามแบรนด์ได้ รวมถึงสามารถจัดการหน้าร้าน ภาพโลโก้ ราคา และองค์ประกอบอื่น ๆ ที่เป็นภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้ด้วยตัวเอง จึงเป็นอีกหนึ่งข้อดีสำหรับผู้ขาย
  • มีความน่าเชื่อถือ: ในการขายของออนไลน์ เรื่องของการโอนเงินจ่ายเงิน เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยความเชื่อใจระหว่างลูกค้าและผู้ขาย แต่หากใช้งาน Marketplace ซึ่งมีระบบการจัดการการจ่ายเงินรองรับ ทำให้ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายมั่นใจว่าจะได้สินค้าและได้รับเงินอย่างแน่นอน 
  • เพิ่งช่องทางในการขายสินค้าไปต่างประเทศ: จุดเด่นอีกอย่างของแพลตฟอร์ม Marketplace คือ การเข้าถึงตลาดต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องลงทุนศึกษาตลาดหรือทำการตลาด รวมถึงมีการซัพพอร์ตด้านภาษาเพื่อใช้ในการขาย ทั้งนี้ในหลาย ๆ แพลตฟอร์มก็มีค่าจัดส่งพิเศษให้กับผู้ขายอีกด้วย
young-lady-use-cellphone-order-online-shopping-product paying bills with banking app transaction

ข้อเสียของ Marketplace

  • ไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้า: ในมุมที่ผู้ขายต้องการออกมาสร้างแพลตฟอร์มออนไลน์ของตัวเอง และต้องการใช้ข้อมูลลูกค้าจากแพลตฟอร์ม Marketplace จะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากหลาย ๆ แพลตฟอร์ม Marketplace จะมีเพียงข้อมูลทั่วไปให้กับผู้ขายเท่านั้น 
  • ร้านค้าไม่ใช่ของตัวเอง: ในกรณีที่ต้องการย้ายแพลตฟอร์ม ผู้ขายไม่สามารถดาวน์โหลดไฟล์รูปภาพ ราคา รายละเอียดสินค้าของตัวเองออกมาได้ ทำให้ต้องไปสร้างใหม่นั่นเอง
  • ข้อมูลการค้าเป็นของ Marketplace: อาจเป็นข้อเสียเปรียบอีกอย่างหนึ่งของแบรนด์หรือร้านค้า เนื่องจากไม่สามารถเป็นเจ้าของข้อมูลลูกค้าและการซื้อขายทั้งหมด ทำให้ Marketplace ที่มีข้อมูลรอบด้านของธุรกิจ สามารถใช้ข้อมูลที่มีเพื่อสร้างธุรกิจแข่งกับเราได้
  • มีคู่แข่งมากมายในที่เดียวกัน: อาจเป็นข้อดีของผู้ซื้อ แต่เป็นข้อเสียเปรียบของผู้ขาย เมื่อมีผู้ขายมากมาย ที่ขายสินค้าใกล้เคียงกัน ผู้ซื้อจึงมีโอกาสเลือกมากกว่า 
  • มีเงื่อนไขมากมาย: เนื่องจากทาง Marketplace เองก็ต้องการรักษาภาพลักษณ์และประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า ทำให้แบรนด์ที่เปิดร้านใน Marketplace ต้องจัดการเรื่องสต๊อกสินค้าและการจัดส่งตามวันเวลาที่กำหนดตามมาตรฐาน  

เทคนิคขายของให้ปังบน Marketplace

store clothes ecommerce online

การขายของบน Marketplace อาจเริ่มต้นได้ง่าย แต่การจะขายให้ได้ยอดและ ทำธุรกิจได้อย่างมั่นคง ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ ความเข้าใจระบบ และการลงมือทำที่สม่ำเสมอ วันนี้เรารวบรวม 4 เทคนิคเด็ดที่เจ้าของร้านควรลองทำ เพื่อดันร้านให้ติดหน้าแรกและสร้างยอดขายได้แบบต่อเนื่อง

1. ตั้งชื่อสินค้าให้ค้นหาเจอ ง่ายและตรงใจ

ชื่อสินค้าคือด่านแรกที่ทำให้ลูกค้าคลิกมาที่ร้านของคุณ ยิ่งเขียนชัดเจน ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าค้นหา โอกาสที่ระบบของ Marketplace จะดันขึ้นมาก็ยิ่งสูงขึ้น

เทคนิคเขียนชื่อสินค้า

  • ใส่คีย์เวิร์ดหลัก เช่น ชื่อประเภทสินค้า พร้อม จุดเด่น เช่น สี ขนาด หรือวัสดุ
  • หลีกเลี่ยงการใช้คำที่ไม่มีความหมาย เช่น “สินค้าดีมาก” หรืออีโมจิเยอะเกินไป
  • ตัวอย่างที่ดี:
    • ❌ “กระเป๋าใหม่ ใบนี้ดีมาก 👜🔥”
    • ✅ “กระเป๋าสะพายผู้หญิง หนัง PU สีดำ ทรงเกาหลี จุของได้เยอะ – พร้อมส่ง”

Tips: ใช้ฟังก์ชัน Auto-fill หรือคำค้นแนะนำจาก Marketplace เพื่อดูว่า ลูกค้าชอบใช้คำว่าอะไร แล้วดึงมาใส่ในชื่อสินค้า

2. จัดการรีวิว ตอบแชทไว สร้างความน่าเชื่อถือ

รีวิวดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง! และการตอบแชทไวคือด่านสำคัญที่ระบบ Marketplace จะใช้ประเมินความพร้อมของร้านค้า

เคล็ดลับในการจัดการรีวิวและแชท

  • ส่งข้อความติดตามผลหลังลูกค้าได้รับสินค้า พร้อมแนบลิงก์หรือวิธีรีวิวแบบง่าย ๆ
  • ใช้ข้อความตอบอัตโนมัติ (Auto reply) เวลานอกเวลาทำการ เพื่อไม่พลาดลูกค้ารายสำคัญ
  • เตรียมเทมเพลตคำตอบไว้ล่วงหน้า เช่น แจ้งรอบจัดส่ง แนะนำสินค้า

3. เข้าร่วมแคมเปญ Marketplace อย่างสม่ำเสมอ

Marketplace อย่าง Shopee Lazada หรือ TikTok Shop จะมีแคมเปญกระตุ้นยอดตลอดปี เช่น 9.9, 11.11, Payday หรือ Mega Sale โดยร้านที่เข้าร่วมมีโอกาสได้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว!

เตรียมตัวเข้าร่วมแคมเปญให้ปัง

  • วางแผนสต๊อกล่วงหน้า เพื่อรองรับออเดอร์ที่อาจพุ่งสูง
  • ตั้งราคาพิเศษหรือจัดชุดสินค้า (Bundle Deal) พร้อมโปรโมชั่นเสริม เช่น ส่งฟรี หรือรับ Coin
  • ทำป้ายโปรโมต (Banner) ในร้านให้โดดเด่นในช่วงแคมเปญ

อ่านต่อ: แชร์ไอเดีย จัดโปรโมชั่นร้านค้าออนไลน์ กลยุทธ์กระตุ้นยอดขายให้ปัง!

4. ใช้ระบบหลังบ้านและ Fulfillment ช่วยจัดการ

หากร้านคุณขายของหลาย Marketplace พร้อมกัน อาจเจอปัญหาเช่น สต๊อกไม่ตรง ตอบลูกค้าช้า หรือแพ็คของผิดออเดอร์ การใช้ระบบหลังบ้านหรือบริการ Fulfillment จะช่วยให้จัดการทุกอย่างได้ในที่เดียว

ข้อดีของระบบ Fulfillment

  • รวมออเดอร์จาก Shopee, Lazada, TikTok Shop, Facebook และเว็บไซต์ไว้ในระบบเดียว
  • ตัดสต๊อกแบบ Real-time เมื่อมีการสั่งซื้อ
  • แพ็คของและจัดส่งให้แบบครบวงจร
  • ลดภาระเจ้าของร้าน ทำให้มีเวลาพัฒนาธุรกิจมากขึ้น

Marketplace กับระบบ Fulfillment ต้องเดินคู่กัน

carry fulfillment service

แม้ Marketplace จะช่วยให้คุณเริ่มขายของออนไลน์ได้ง่าย ๆ แต่พอธุรกิจเริ่มเติบโต ออเดอร์เข้าวันละหลายร้อยชิ้น การดูแลทุกขั้นตอนคนเดียว อาจกลายเป็นจุดอ่อนของร้านค้าออนไลน์ได้โดยไม่รู้ตัว

นี่คือเหตุผลว่าทำไมการมี ระบบ Fulfillment ที่ดี จึงเป็นเพื่อนร่วมทางที่ร้านค้าออนไลน์ควรมีตั้งแต่วันนี้

Fulfillment คืออะไร?

คือระบบจัดการหลังบ้านแบบครบวงจร ตั้งแต่ เก็บสินค้า – แพ็ค – ส่ง จนถึงหน้าประตูบ้านลูกค้า โดยเจ้าของร้านไม่ต้องทำเอง เหมาะกับร้านที่

  • มีออเดอร์หลายช่องทาง (Marketplace + เว็บไซต์)
  • ไม่มีคลังเก็บสินค้า
  • ไม่มีเวลามาแพ็คของทุกวัน
  • อยากโฟกัสที่การขายและการตลาดมากกว่า

ข้อดีเมื่อใช้ Fulfillment คู่กับ Marketplace

1. รวมออเดอร์จากหลายแพลตฟอร์มในที่เดียว

ไม่ต้องสลับหน้าจอไปมา ไม่พลาดออเดอร์ ระบบ Fulfillment เช่นของ Carry Fulfillment จะรวมคำสั่งซื้อจากทุกช่องทางเข้ามาไว้ในระบบเดียว สั่งพิมพ์ใบปะหน้าได้ทันที ประหยัดเวลา จัดการง่าย

2. ตัดสต๊อกอัตโนมัติ ไม่ต้องนับมือ

เมื่อสินค้าถูกสั่งจาก Shopee หรือ Lazada หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ระบบจะตัดสต๊อกทันที ไม่ต้องรอกดอัปเดตเอง ลดโอกาสผิดพลาด

3. แพ็คของ + ส่งของแบบมืออาชีพ

ทีมงาน Fulfillment จะช่วยแพ็คสินค้าตามมาตรฐาน ป้องกันความเสียหาย ส่งไวตามกำหนด มาพร้อมระบบ Tracking ทำให้ลูกค้าเช็กสถานะได้ทุกขั้นตอน

4. เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์

ร้านที่จัดส่งเร็ว แพ็คสินค้าดี ตอบแชทไว  มีโอกาสที่จะได้รีวิวดี ๆ เพิ่มโอกาสได้ลูกค้าซ้ำ ระบบ Fulfillment จะช่วยให้ร้านคุณดูโปรแม้ว่าจะมีแค่ทีมเล็ก ๆ

อ่านต่อ


Marketplace ถือเป็นอีกช่องทางในการทำเงินให้กับผู้ขายในยุคปัจจุบัน และมีทั้งข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป แต่หากร้านค้าหรือแบรนด์ไหนที่ไม่ต้องการบริหารจัดการเรื่องการสต๊อกสินค้า การแพ็คของ หรือการส่งของให้ลูกค้า ไม่ต้องกังวลครับ!  Carry Fulfillment พร้อมช่วยดูแลธุรกิจของคุณตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งจัดเก็บ แพ็ค และส่งสินค้าให้คุณอย่างมีประสิทธิภาพ เรามีระบบหลังบ้านที่สามารถเชื่อมต่อ API เข้ากับแพลตฟอร์มต่าง ๆ ทําให้ร้านค้า ประหยัดเวลาในการจัดการออเดอร์ได้เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นหลักพันหรือหมื่นออเดอร์ เราพร้อมให้บริการที่ครบวงจร ช่วยให้ธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างราบรื่น ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการของเราได้ที่นี่เลยครับ!