หลังจากธุรกิจออนไลน์ได้รับความนิยม อีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความนิยมตามไปด้วยก็คือการขนส่ง ซึ่งสำหรับใครที่ต้องการส่งของไปต่างประเทศ ก็มีบริษัทขนส่งให้บริการมากมายหลายเจ้าด้วยกัน เรามาทำความรู้จักกับผู้ให้บริการส่งของไปต่างประเทศกัน ว่ามีเจ้าไหนบ้าง ค่าบริการเท่าไหร่ และใช้งานอย่างไรบ้าง


รวมบริษัทส่งของไปต่างประเทศ 

ส่งของไปต่างประเทศโดย DHL 

สำหรับการส่งของไปต่างประเทศ DHL ถือเป็นผู้ให้บริการรายหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากและมีชื่อเสียงมายาวนาน มีประสบการณ์กว่า 40 ปี โดยเฉพาะเรื่องบริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ทั้งการให้บริการแก่ลูกค้ารายย่อยและลูกค้าแบบบริษัท 

สำหรับการขนส่งมีให้เลือกทั้งรูปแบบทางเรือ ทางอากาศ และทางรถไฟ ครอบคลุมกว่า 220 ประเทศทั่วโลก ทั้งการขนส่งของไปต่างประเทศและการขนส่งในประเทศ ทั้งเอเชีย ตะวันออกกลาง ยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลก 


ส่งของไปต่างประเทศโดย UPS 

อีกหนึ่งบริษัทขนส่งระดับโลกก็คือ UPS นั่นเอง ซึ่งเป็นบริษัทและไปรษณีย์เอกชนรายใหญ่จากสหรัฐอเมริกา โดยบริการของบริษัท UPS ตอบโจทย์ผู้ที่กำลังส่งของไปต่างประเทศทั้งแบบล็อตใหญ่เป็นพาเลตหรือเป็นตู้คอนเทนเนอร์ รวมไปถึงสินค้าทั่วไปที่ต้องมีการเคลียสินค้าที่ศุลกากร UPS ก็มีความเชี่ยวชาญไม่แพ้เจ้าอื่น ๆ นอกจากนี้ลูกค้าสามารถจองให้ไปรับสินค้าผ่านทางคอลเซ็นเตอร์และออนไลน์ได้อีกด้วย 


ส่งของไปต่างประเทศโดย FedEx

อีกหนึ่งชื่อที่คุ้นหูคนไทยเรื่องการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศก็คือ FedEx ซึ่งเปิดให้บริการมานานกว่า 25 ปี แต่เดิมดำเนินการที่ประเทศญี่ปุ่นและจีน ก่อนจะขยายสาขาไปทั่วโลก สำหรับการขนส่งสินค้า มีบริการที่ทั่วถึง 220 ประเทศทั่วโลก มีรูปแบบการจัดส่งให้เลือกทั้งแบบด่วนที่มีให้เลือกแยกย่อยอีก เช่น FedEx International Priority® Express เป็นการส่งภายใน 1-2 วันทำการและส่งภายในเที่ยงวัน สำหรับพัสดุที่ต้องการความไวพิเศษ เป็นต้น นอกจากการจัดส่งสินค้าแล้วยังมีบริการด้านคลังสินค้า ด้านศุลกากร และการกระจายสินค้าอีกด้วย 


ส่งของไปต่างประเทศโดย Fast Ship

หากใครที่กำลังต้องการส่งของไปต่างประเทศ บริษัท Fast Ship เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจด้วยสโลแกน รับทั่วไทย ส่งไกลทั่วโลก ซึ่งรูปแบบของบริการ Fast Ship จะเป็นการเชื่อมต่อกับบริการขนส่งชั้นนำระดับโลก เช่น UPS, DHL, FedEx ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเลือกได้เอง นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์ม Marketplace เจ้าดังทั่วโลก เช่น ebay, Amazon อีกด้วย 


ส่งของไปต่างประเทศโดย Ezy Express

สำหรับ Ezy Express เป็นอีกหนึ่งบริการที่ราคาถูกและเข้ารับของถึงที่ แถมยังสามารถติดตามสถานะการจัดส่งได้ตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากมีการเชื่อมต่อกับบริษัทขนส่งเจ้าใหญ่ทั้ง UPS, DHL, FedEx และอื่น ๆ ทำให้มีตัวเลือกในการจัดส่งสินค้าด่วน ส่งสินค้าแบบปกติ หรือส่งไปรษณีย์ไปต่างประเทศ นอกจากนี้ยังมีบริการ Ezy Ship เป็นขนส่งทางเรือที่ให้บริการตั้งแต่การเข้ารับสินค้า ไปจนถึงการจัดการด้านเอกสาร


ส่งของไปต่างประเทศโดย SME Shipping

ส่งของไปต่างประเทศได้สะดวกยิ่งขึ้นด้วยบริการขนส่งของ SME Shipping ที่ให้บริการมาแล้วกว่า 12 ปี และส่งของไปได้กว่า 200 ประเทศทั่วโลก เหมาะสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการส่งของไปต่างเทศ ทั้งสินค้าน้ำหนักน้อยไปจนถึงของขนาดใหญ่ มีการขนส่งทั้งทางเครื่องบิน รถยนต์ และทางเรือ พร้อมบริการรับและส่งสินค้าแบบ Door to door และยังเป็นพันธมิตรกับบริษัทขนส่งขนาดใหญ่อย่าง DHL, FedEx อีกด้วย 


ส่งของไปต่างประเทศโดย ไปรษณีย์ไทย 

สำหรับไปรษณีย์ไทยนอกจากเราจะคุ้นเคยกับการส่งของภายในประเทศแล้ว ไปรษณีย์ไทยยังมีบริการส่งสินค้าไปต่างประเทศที่ครอบคลุมกว่า 225 ประเทศทั่วโลก ลองรับน้ำหนักถึง 30 กิโลกรัมต่อชิ้น และมีช่องทางในการขนส่งให้เลือก 2 รูปแบบคือ ทางอากาศ (Air) และทางภาคพื้น (Surface) อัตราค่าบริการก็จะแตกต่างกันออกไป ระยะเวลาในการจัดส่งจะอยู่ที่ 2-25 วันทำการ 

ปัจจุบันไปรษณีย์ไทยยังมีบริการพิเศษชื่อว่า Courier Lite ที่ให้บริการในการส่งของไปต่างประเทศเช่น ของแห้ง อาหารแห้ง เครื่องสำอาง โดยจะจัดส่งไปยังปลายทาง 33 ประเทศด้วยกัน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงค์โปร ใครที่ใช้บริการก็สามารถติดตามผลได้ผ่านระบบอีกด้วย 


แต่ละบริษัทก็มีรูปแบบการให้บริการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อกับบริษัทขนส่งเอง หรือจะเป็นการติดต่อผ่านตัวแทนและพันธมิตร ที่มาพร้อมบริการเสริมอื่น ๆ ที่จะสามารถจัดการเรื่องยุ่งยากเกี่ยวกับการส่งสินค้าให้กับเจ้าของธุรกิจได้ แต่หากใครสนใจบริการที่ครบวงจร โดยเฉพาะบริการ Fulfillment ที่ช่วยบริหารทั้งการจัดเก็บสินค้า การแพ็คสินค้า ไปจนถึงจัดส่ง สามารถเลือก Carry Fulfillment ได้เลย