Lead Time ถือเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการรักษาความได้เปรียบในการทำธุรกิจ หากผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ ไม่เข้าใจหลักการและความหมายของ Lead Time การทำธุรกิจของคุณอาจอยู่ในวังวนของความล่าช้าและย้ำอยู่กับที่ บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจ Lead Time และการควบคุม  Lead Time เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด


พนักงานโรงงานตรวจสอบกระบวนการผลิตในโรงงาน factory workers analyzing production

Lead Time คือ?

Lead Time เป็นคำที่ใช้ในภาคการผลิตและจัดการห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain Management)  ซึ่งหมายถึง ช่วงเวลาในการรอสินค้า ตั้งแต่เริ่มต้นกระบวนการผลิตหรือการสั่งซื้อสินค้าจนไปถึงเมื่อสินค้าเสร็จสมบูรณ์และพร้อมส่งมอบให้ลูกค้า ทั้งนี้ ระยะของ Lead Time นั้นจะแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้า กระบวนการผลิตสินค้านั้น ๆ และระยะเวลาการจัดส่ง

ความสำคัญของ Lead Time ต่อธุรกิจ 

การรู้ Lead Time ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจ เพราะช่วยให้ธุรกิจสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างมีระบบ รู้ถึงกระบวนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้สามารถประเมินค่าใช้จ่าย ควบคุมสต็อก และกำหนดช่วงเวลาของการจัดส่งสินค้าให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ 


ประเภทของ Lead Time

ประเภทของ Lead Time นั้นมีอยู่ 4 ประเภทหลัก แต่ทั้งนี้ก็ยังมีรูปแบบอื่น ๆ แล้วแต่การตีความและการปรับใช้ตามแต่ละการทำงานของโรงงานนั้น ๆ 

Customer Lead Time 

Customer Lead Time คือระยะเวลาการรอคอยสินค้าของลูกค้า ซึ่งนับตั้งแต่การที่ลูกค้ากดสั่งสินค้า ทางบริษัทยืนยันออเดอร์ ส่งต่อสู่กระบวนการการผลิต การจัดส่ง ไปจนถึงถึงการที่ลูกค้าได้รับสินค้าเสร็จสมบูรณ์

Material Lead Time 

Material Lead Time คือช่วงเวลาการยืนยันคำสั่งซื้อวัสดุ (Materials) จาก Supplier จนถึงเวลาที่ได้รับวัสดุนั้น ๆ เพื่อนำไปใช้ในกระบวนการการผลิตต่อ 

Production Lead Time 

เมื่อได้รับวัสดุแล้ว ก็จะเป็นช่วงของ Production Lead Time ซึ่งคือระยะเวลาในการผลิตสินค้าเมื่อวัสดุพร้อมแล้วไปจนถึงกระบวนการผลิตและสินค้าเสร็จสมบูรณ์ พร้อมนำไปจัดจำหน่าย  

Cumulative Lead Time 

Cumulative Lead Time คือช่วงเวลาสะสม ตั้งแต่การยืนยันคำสั่งซื้อสินค้า การผลิตสินค้า ไปจนถึงการส่งสินค้าเสร็จสมบูรณ์


วิธีการลด Lead Time เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต

การลด Lead Time สามารถทำได้ด้วยการวางแผนการทำงานของ Lead Time แต่ละประเภท ที่เราพูดถึงกันไปก่อนหน้านี้ เพื่อดูว่ามีจุดไหนที่บกพร่องบ้าง ซึงก็สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้ 

วิธีการลด lead time/ ways to reduce lead time

ยกเลิกหรือลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น

วิธีที่ง่ายที่สุดในการลด Lead Time คือการลดขั้นตอนหรือกระบวนการที่ไม่จำเป็นสำหรับการทำการขาย เช่น การละเว้นการตรวจสอบคุณภาพหลายรอบ การประเมินประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต หรือแม้แต่การเดินเรื่องเอกสารต่าง ๆ ทั้งนี้อาจหันไปใช้ระบบอัตโนมัติเพื่อการตรวจสอบที่แม่นยำและรวดเร็วแทนได้ 

ลดความซับซ้อนของชิ้นส่วนประกอบหรือวัสดุ

สินค้าบางประเภทอาจเกิดจากกระบวนการที่นำวัสดุชิ้นเล็กจำนวนหลายชิ้นมาประกอบกัน ซึ่งทำให้กระบวนการการผลิตนั้นซับซ้อนและมีหลายขั้นตอนมากขึ้น เพื่อเป็นการลด Lead Time ธุรกิจอาจพิจารณาการหา Supllier ที่ผลิตสินค้าชิ้นนั้น ๆ หรือชิ้นส่วนประกอบชิ้นใหญ่แทนการผลิตเองทั้งหมด 

ตรวจสอบวิธีการขนส่ง

เพราะบริษัทขนส่งนั้นไม่ได้มีกระบวนการการทำงานที่เท่ากันทุกที่ และอาจมีปัจจัยโดยรอบของบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่ทำให้การขนส่งนั้นกินเวลานาน ธุรกิจควรตรวจสอบวิธีการขนส่งที่ตนใช้รวมถึงของฝั่ง Supplier เสมอ เพื่อดูว่ามีวิธีการขนส่งที่ดีกว่าและเร็วกว่าหรือไม่

เพิ่มการจัดเก็บสินค้าคงคลัง

เพราะการมีสินค้าอยู่ในมือ พร้อมนำไปใช้หรือพร้อมจำหน่ายนั้นช่วยประหยัดเวลาได้มากกว่าการรออยู่แล้ว ทั้งนี้การจัดเก็บสินค้าในจำนวนที่มากขึ้นอาจทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในเรื่องการเก็บรักษา ธุรกิจสามารถพิจารณาการเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บตามงบประมาณที่เหมาะสม

สร้างมาตรฐานในการทำงาน 

บริษัทกำหนดรูปแบบการทำงานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ตั้งแต่การระบุขั้นตอนการทำงานไว้อย่างละเอียดและชัดเจน รวมไปถึงการสื่อสารให้พนักงานภายในทุกคนรับทราบถึงข้อปฏิบัติและแนวทางการทำงานให้ไปในทิศทางเดียวกัน เพราะขั้นตอนการทำงานที่มีระบบจะช่วยลดความสับสน ลดระยะเวลาการตัดสินใจของพนักงานในการดำเนินงานให้น้อยลงได้ ซึ่งนั่นก็ช่วยลด Lead Time ได้ 

จำแนกสายการผลิตเพื่อการทำงานที่เป็นระบบ

ถึงแม้ว่าเครื่องจักรที่มีในโรงงานจะมีประสิทธิภาพสูงและสามารถทำงานได้หลายกระบวนการ แต่นั่นอาจไม่ได้แปลว่าเป็นการทำงานที่มีประสิทธภาพเสมอไป การลองแบ่งสายการผลิตออกเป็นหลาย ๆ สาย โดยให้แต่ละสายทำงานไปพร้อมกันได้ อาจช่วยลด Lead Time ในการผลิตลงได้มากกว่า

คอยตรวจสอบกระบวนการทำงานอยู่เสมอ

ควรหมั่นตรวจสอบกระบวนการทำงานอยู่เรื่อย ๆ เพื่อคอยดูว่ากระบวนการไหนใช้เวลาเท่าไหร่ หากพบว่าขั้นตอนไหนที่ใช้ระยะเวลาเกินความจำเป็น ก็ควรหาวิธีหรือพยายามลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็นให้ได้มากที่สุด


ควบคุม Lead Time เพื่อเพิ่มการผลิตและสร้างกำไร 

อย่างที่เราทำความเข้าใจกันไปว่า Lead Time ถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินการอย่างประสิทธิภาพ ยิ่งเราสามารถลด Lead Time ลงได้มากเท่าไหร่ ก็จะทำให้ระยะเวลาในแต่ละขั้นตอนของกระบวนการผลิตสั้นลงเท่านั้น ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ช่วยเพิ่มโอกาสในการส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าได้เร็วขึ้น สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและสร้างผลกำไรได้ในท้ายที่สุด สำหรับแบรนด์หรือธุรกิจที่ต้องการประหยัดทั้งแรงและเวลา ก็สามารถให้ Carry Fulfillment ช่วยคุณจัดการ จัดเก็บ และส่งสินค้าให้แบรนด์ของคุณได้ เพราะเรามีบริการครบวงจร ที่ช่วยให้คุณสามารถวางแผนธุรกิจได้อย่างแม่นยำและราบรื่น