จันทร์ – ศุกร์ 8.00 – 17.00 น.
@Carry.th 
ธุรกิจเสื้อผ้าและแฟชันนั้นถือเป็นธุรกิจที่เกิดการซื้อขายอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งในตอนนี้ ตลาดเสื้อผ้าออนไลน์ก็เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หลาย ๆ แบรนด์ต้องต่อสู้เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด วันนี้ Carry Fulfillment จึงมาแจก 12 เทคนิคการขายเสื้อผ้าออนไลน์ยังไง ให้เหล่าพ่อค้าแม่ค้าได้ยอดขายกันปัง ๆ ตามไปดูกันได้เลย
อยากขายเสื้อผ้าออนไลน์ ต้องเริ่มยังไง?
สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจการขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน Carry Fulfillment มีขั้นตอนพื้นฐานมาแนะนำดังนี้เลยครับ
1. ศึกษาและวางแผน
การเริ่มต้นธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเป็นระบบ เริ่มจากตั้งเป้าหมายและกำหนดทิศทางให้ชัดเจน เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของคุณ สิ่งที่ว่าที่พ่อค้าแม่ค้าควรศึกษาและวางแผนได้แก่
- กำหนดเงินลงทุน
- ชนิดเสื้อผ้าที่คุณอยากจะขาย เช่น ชุดสายฝอ เสื้อผ้าใส่ไปงาน เสื้อผ้าแนวสตรีท ฯลฯ
- กำหนดกลุ่มเป้าหมายของคุณ ว่ากลุ่มที่จะซื้อเสื้อผ้าคุณเป็นกลุ่มคนอายุเท่าไหร่ ทำอาชีพอะไร รายได้อยู่ที่ประมาณเท่าไหร่ มีไลฟไสตล์แบบไหน เป็นต้น
- การทำความเข้าใจกับตลาด ลูกค้า และการวิเคราะห์คู่แข่ง ศึกษาเทรนด์ของอุตสาหกรรมในปัจจุบัน ราคาขายเฉลี่ย
ขายเสื้อผ้าออนไลน์ ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไหร่?
การเปิดร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ นอกจากจะมีค่าตัดเย็บสำหรับทำเสื้อผ้าของแบรนด์คุณเองแล้ว ก็ยังมีค่าPackaging ค่าขนส่ง และค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ ทั้งนี้ต้นทุนราคาเสื้อผ้าในการขายของแต่ละประเภทจะไม่เท่ากัน ทางที่ดีก็ควรมีการกันงบเอาไว้อย่างน้อย 10,000 บาท แต่สำหรับใครที่มีเงินทุนจำกัดก็สามารถทดลองเป็นตัวแทนจำหน่ายก่อนก็ได้เช่นกัน
2. หาแหล่งขายส่งผ้าและแหล่งตัดเย็บ
หลังจากได้รูปแบบธุรกิจที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนสำคัญขั้นถัดมาคือการหาแหล่งขายส่งเสื้อผ้าและโรงงานตัดเย็บ โดยสิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องพิจารณาได้แก่ รูปแบบ เนื้อผ้า คุณภาพผ้า และความเหมาะสมของราคา ตามงบลงทุนที่มี
3. เลือกแพลตฟอร์มในการขายเสื้อผ้า
ข้อดีของการเลือกทำธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ คือ สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าจำนวนมากได้ แต่ทั้งนี้ก็ต้องมีการเลือกว่า จะลงขายที่ช่องทางใด และทำความเข้าใจฟีเจอร์ของแต่ละแพลตฟอร์มให้ดีเสียก่อน ซึ่งตัวเลือกสำหรับว่าที่พ่อค้าแม่ค้าก็มีอยู่หลากหลาย ตั้งแต่แพลตฟอร์ม E-commerce ชื่อดังอย่าง Shopee หรือ Lazada จนไปถึง Social Media อย่าง Facebook Instagram หรือ TikTok นอกจากนี้การใช้หลายช่องทางในการขายก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้นอีกด้วย
ศึกข้อมูลการขายของบน Lazada, Shopee, TikTok เพิ่มเติมได้ที่บทความของเราเลย
4. สร้างแบรนด์
การสร้างแบรนด์หรือ Branding เป็นอีกปัจจัยหลักที่จะช่วยให้ธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณมีความแตกต่างและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็นสร้างโลโก้ที่สะท้อนความเป็นตัวคุณและมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่น การสร้างเรื่องราวของแบรนด์ หรือรูปแบบของคอนเทนต์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความน่าสนใจให้กับลูกค้าเป้าหมายของคุณได้
สำหรับที่มีงบจำกัด ไม่อยากจ้างนักออกแบบโลโก้ สามารถแวะเข้าไปดู 10 โปรแกรมออกแบบโลโก้ฟรี ที่คุณสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้เลยนะครับ
12 เทคนิค ขายเสื้อผ้าออนไลน์ยังไงให้ปัง
อย่างที่เรารู้กันว่าธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์นั้นถือเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง การทำให้ร้านค้าของคุณโดดเด่นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้!
และนี่คือ 12 เทคนิคที่จะทำให้การขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณปังไม่หยุด มีอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลยครับ
1. รูปภาพสินค้าต้องสวย ดึงดูดลูกค้าได้
หนึ่งในปัจจัยสำคัญที่สุดสำหรับการขายเสื้อผ้าออนไลน์คือการมีภาพสินค้าที่สวยงาม น่าดึงดูดและมีความเป็นมืออาชีพ เพราะนั่นคือสิ่งที่ลูกค้าเห็นเป็นอย่างแรก ดังนั้นรูปภาพของเสื้อผ้าต้องชัดเจนและแสดงรายละเอียดของสินค้าได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ การเพิ่มการนำเสนอด้วยคอนเทนต์แบบวิดีโอก็สามารถเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้าของคุณได้ด้วยเช่นกัน
2. จับคู่เสื้อผ้าและไลฟสไตล์
นี่เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจเสื้อผ้าของแบรนด์คุณได้อย่างง่ายดาย เพราะหากแบรนด์คิดมาให้แล้วว่าไลฟสไตล์แบบนี้ต้องแต่งตัวแบบไหน ก็คงเป็นเรื่องที่สะดวกสำหรับลูกค้าอยู่ไม่น้อย อย่างเช่น ร้านคุณขายเสื้อผ้าประเภทเดรสหรือกระโปรง ก็อาจจับคู่เสื้อผ้า ‘กระโปรงสำหรับสาว ๆ สายคาเฟ่’ ‘ชุดเดรสพริ้ว ๆ สำหรับไปทะเล’ ‘กระโปรงสุดชิคสไตล์ Y2K’ เป็นต้น
3. แมตช์เสื้อผ้าของร้านเพื่อเป็นไอเดียแก่ลูกค้า
แน่นอนว่าคงมีลูกค้าหลายคนที่เกิดความรู้สึกว่า ‘เสื้อของแบรนด์นี้สวยดีนะ แต่ต้องแมตช์กับกระโปรงหรือกางเกงแบบไหนดี ซื้อมาแล้วจะได้ใส่บ่อยแค่ไหน คุ้มหรือเปล่า’ ดังนั้นการที่ทางร้านจับคู่เสื้อผ้าของแบรนด์ตนเองให้ก็ถือเป็นการสร้างอีกหนึ่งไอเดียในการแต่งตัวให้แก่ลูกค้าได้ นอกจากนี้ก็ยังทำให้พวกเขามั่นใจมากขึ้นว่าซื้อมาแล้วได้ใช้จริงแน่นอน
4. รีวิวของลูกค้าเป็นสิ่งสำคัญ
อีกหนึ่งลูกเล่นสำหรับการขายเสื้อผ้าออนไลน์คือการโพสต์ขอบคุณรีวิวดี ๆ จากลูกค้าที่ได้ซื้อสินค้ากับทางร้านไปแล้ว เทคนิคนี้ นอกจากจะแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจจากทางแบรนด์แล้ว ก็ทำให้ลูกค้าคนอื่น ๆ สามารถตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น เพราะรีวิวนั้น ๆ จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ของคุณนั่นเอง
5. ทำการโปรโมตหรือยิง Ads
การลงทุนในการยิง Ads ถือเป็นเป็นวิธีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพอย่างมากในการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คุณเอง เทคนิคนี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มการรับรู้ (Awareness) และยอดขายเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์และเอกลักษณ์ของร้านค้าผ่านคอนเทนต์สร้างสรรค์และน่าดึงดูดได้ด้วย
อีกทั้งการตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงและการวิเคราะห์ผลลัพธ์ของโฆษณชิ้นนั้น ๆ ช่วยให้ทางแบรนด์สามารถปรับเปลี่ยนและเพิ่มประสิทธิภาพการตลาดได้อย่างต่อเนื่อง การยิง Ads จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ไม่ควรมองข้ามสำหรับธุรกิจขายเสื้อผ้าออนไลน์เลย
6. ทำงานร่วมกับ Influencer
การที่แบรนด์ทำงานร่วมกับ Influencer นั้นจะช่วยสร้างความสนใจให้กลุ่มผู้ติดตามของ Influencer คนนั้น ๆ ได้อย่างดี เรียกได้ว่า ได้ทั้งการเพิ่มการรับรู้ (Awareness) และความน่าเชื่อถือไปในตัวเลย โดยการทำงานกับ Influencer ก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี อาจเป็นติดต่อเพื่อให้มาถ่ายแบบกับเสื้อผ้าของแบรนด์ เชิญพวกเขามาทำกิจกรรมร่วมกับแบรนด์ หรือส่งเสื้อผ้าของแบรนด์เพื่อให้ Influencer คนนั้น ๆ รีวิวให้ เป็นต้น
7. ไลฟ์สดขายเสื้อผ้า
การไลฟ์สดขายเสื้อผ้านั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยกระตุ้นยอดขายได้อย่างดี เพราะลูกค้าต้องรีบ CF ณ ตอนนั้นเลย ในขณะไลฟ์ก็อาจมีการจัดโปรพิเศษได้ด้วยเช่น หากซื้อจากไลฟ์มีโปรส่งฟรี หรือลดราคา นอกจากนี้การไลฟ์ขายเสื้อผ้าก็ถือเป็นการสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ดีไปในตัว เพราะต้องแสดงสินค้าตอบคำถาม พูดคุย กับลูกค้าแบบเรียลไทม์
8. ใช้แฮชแท็ก # บนโพสต์ Social Media
การใช้แฮชแท็ก # นั้นอาจเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนมองข้าม แต่รู้ไหมว่า การติด # ในโพสต์นั้นช่วยให้โพสต์ของแบรนด์คุณเห็นได้ง่ายขึ้นในหมู่กลุ่มเป้าหมายและง่ายต่อการค้นหาอีกด้วย ทั้งนี้ร้านค้าก็ไม่ควรใช้จำนวนแฮชแท็กเยอะจนเกินไป เพราะอาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือได้ และที่สำคัญแฮชแท็กจะต้องมีความเกี่ยวข้องกับสินค้าและแบรนด์ของคุณด้วยนะครับ
9. ทำเว็บไซต์ของร้าน
หากร้านขายเสื้อผ้าออนไลน์ของคุณ เริ่มสร้างยอดขายได้และเป็นที่รู้จักแล้ว การทำเว็บไซต์ก็เป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่จะช่วยให้ร้านของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้นผ่านการค้นหาบน Google ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงตลาดที่กว้างขึ้น เพราะไม่ได้จำกัดเพียงแค่ลูกค้าในพื้นที่ใกล้เคียง แต่รวมถึงกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ไกลออกไปอย่างลูกค้าจากต่างประเทศได้อีกด้วย นอกจากนี้การที่แบรนด์นั้นมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง ก็ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์อีกด้วยนะครับ
10. ทำโปรแกรมสะสมแต้ม
การทำโปรแกรมสะสมแต้มถือเป็นวิธีในการโปรโมตสินค้ารวมถึงกระตุ้นการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้าเพื่อสะสมแต้ม เทคนิคนี้จะช่วยสร้างความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty) และช่วยสร้างยอดขายและกำไรในท้ายที่สุดให้กับทางร้าน ถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่มีประสิทธิภาพเลยครับ
11. จัดโปรโมชันตามช่วงเวลาสำคัญ
การจัดโปรโมชั่นในช่วงเวลาที่สำคัญ เช่นช่วงเทศกาล วันครบของร้าน หรืออีเวนต์ Double DIgit อย่าง 4.4 / 6.6/ 11.11./ 12.12 ก็เป็นอีกวิธีที่สามารรถดึงดูดความสนใจและกระตุ้นการซื้อขายได้ทั้งจากฝั่งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่เลย เพราะโดยปกติแล้ว ใคร ๆ ต่างก็ชอบความคุ้มค่า ไม่ว่าจะเป็นสินค้าในราคาพิเศษ หรือสินค้าที่มีโปรโมชันของแถมก็ตาม
12. การบริการลูกค้าที่ดี
หลักเบสิคแต่สำคัญอย่างมากในการค้าขาย คือการมีใจบริการ เพราะหากร้านค้ามีบริการที่ดีก็โอกาสที่ลูกค้าจะกลับมาซื้อซ้ำ จนกลายเป็นลูกค้าประจำได้ การบริการที่ดีนั้นนับตั้งแต่การสื่อสารที่มีดี ตอบคำถามได้ชัดเจน การตอบกลับอย่างรวดเร็ว การจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมืออาชีพ สิ่งเหล่านี้จัช่วยให้ลูกค้ารู้สึกประทับใจต่อแบรนด์และสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับร้านของคุณอีกด้วย
พ่อค้าแม่ค้าสามารถดู 11 เทคนิค ตอบแชทลูกค้าให้ปิดการขายได้ทุกเคส! และศึกษา 20 คำศัพท์การซื้อขายที่พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ต้องรู้! เพิ่มเติม เพื่อการขายที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพได้ที่บทความของเราเลยครับ
ในยุคที่โซเชียลมีเดียและอินเทอร์เน็ตครองความนิยมไปทั่วมุมโลก การขายเสื้อผ้าออนไลน์จึงเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่ง ทั้งในด้านความสะดวกและการเข้าถึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ได้มากยิ่งขึ้น สำหรับแบรนด์ ธุรกิจและว่าที่เจ้าของธุรกิจในอนาคต ก็สามารถนำเทคนิคที่เราแนะนำให้ ไปใช้เพื่อสร้างยอดขายปัง ๆ ให้แก่ร้านเสื้อผ้าของคุณได้นะครับ
และที่สำคัญ ก็อย่าลืมเตรียมการรับมือสำหรับยอดขายที่จะเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดการ จัดเก็บ และส่งสินค้า ซึ่งทาง Carry Fulfillment เองก็มีบริการที่ครบวงจรที่ช่วยให้คุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างแม่นยำและราบรื่น สามารถศึกษาบริการของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ